สพฐ.ประสาน กสทช.เร่งแก้ปัญหาทีวีรองรับสัญญาณ DLTV ไม่ได้

ศธ.20พ.ค.-เลขาธิการ กพฐ.เรียกประชุม ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา และ ผอ.โรงเรียน ประเมินปัญหาการเรียนทางไกล ผ่านทีวีและออนไลน์ พร้อมสั่งการให้ลงพื้นที่สำรวจทุกครัวเรือน เบื้องต้นพบมีทีวีดิจิทัล 1.5 ล้านกล่องไม่สามารถรับสัญญาณ DLTV ได้ สพฐ.จึงเร่งประสาน กสทช.ช่วยแก้


นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานในการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา เรื่องการจัดการศึกษาทางไกลในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เชิญมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมมาให้ข้อมูลและชี้แจงแนวทางการแก้ปัญหาการรับสัญญาณช่อง DLTV ผ่านระบบทีวีดิจิทัล ดาวเทียมและออนไลน์ ที่ห้องประชุม สพฐ. 1 กระทรวงศึกษาธิการ
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า การประชุมวันนี้ได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั้งหมด 225 เขต เข้าร่วมประชุม เพื่อเน้นย้ำในสิ่งที่ได้มอบหมายไป  รวมถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ซึ่งเป็นการตรวจสอบความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน เพื่อรองรับการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ขอเน้นย้ำว่าการจัดการศึกษาทางไกลเราใช้ทั้งระบบออนไลน์กับออนแอร์ โดยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา จะเห็นว่าประชาชนให้ความสนใจกับระบบออนไลน์เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกันกับระบบออนแอร์ ดังนั้นความพร้อมของทั้งสองสิ่งนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
สำหรับสิ่งที่เน้นย้ำกับผู้อำนวยการเขตฯ คืออยากให้ลงไปดูแต่ละโรงเรียน แต่ละครอบครัวเป็นรายๆ ไป ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นประสบปัญหาอย่างไรบ้าง หากมีปัญหาด้านเทคโนโลยี ก็อาจจะจัดครูที่มีความรู้เรื่องนี้ลงไปดูแลแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น รวมถึงการสำรวจว่าครอบครัวไหนยังไม่มีกล่องทีวีดิจิทัล ก็จะได้หาทางแก้ไข ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีกล่องทีวีดิจิทัลที่ยังรับสัญญาณไม่ได้อีกกว่า 1.5 ล้านกล่อง ในส่วนนี้ก็จะนำไปพูดคุยกับ กสทช. และกระทรวงดิจิทัลฯ ต่อไป 
อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือการสร้างความเข้าใจกับนักเรียนและผู้ปกครอง ทั้งในเรื่องที่ผลการเรียนของนักเรียนในช่วงการจัดการเรียนการสอนทางไกล จะไม่ได้นำมาประเมินเพราะถือเป็นช่วงทดลอง และเป็นการปรับพื้นฐาน เตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนที่จะก้าวไปสู่การเรียนในระดับที่สูงขึ้นในปีการศึกษาหน้า และให้นักเรียนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 
ส่วนกรณีที่บางครอบครัวมีทีวีเพียงเครื่องเดียวก็สามารถแบ่งเวลาการเรียนและย้อนกลับมาดูรีรันได้ หรือการเรียนกับเพื่อนที่เรียนอยู่ชั้นเดียวกัน มีบ้านอยู่ใกล้กันก็สามารถจับกลุ่มเรียนด้วยกันได้ ตลอดจนความช่วยเหลือจากโรงเรียนและชุมชน ดังนั้น จึงขอให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาเข้าไปดูแลปัญหาที่เกิดขึ้น หากติดขัดอย่างไรก็ให้แจ้ง สพฐ.ได้ทันที โดย สพฐ.จะมีการสรุปผลช่วงแรกในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ครั้งที่2 กลางเดือนมิถุนายน และครั้งที่ 3 ช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งจะเป็นช่วงที่ต้องเติมเต็มในส่วนที่ขาดทั้งหมดก่อนเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมต่อไป
พร้อมย้ำว่า สิ่งที่เรียนในขณะนี้เป็นเพียงการเตรียมความพร้อมและปรับพื้นฐาน ก่อนที่จะมีการเปิดภาคเรียน ในวันที่1ก.ค.2563 พร้อมยืนยันว่า การเปิดเทอมในวันที่ 1 ก.ค.จะเน้นการเรียนในห้องเรียนเป็นหลัก หรือเรียกว่า ออนไซส์ เป็นหลัก ซึ่งจะ100% หรือไม่ขึ้นอยู่กับ ศบค.จะอนุญาตให้เปิดโรงเรียนได้หรือไม่ ซึ่งสพฐ.จะมีการประสานงานอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มีการเตรียมการไว้ 2 แนวทาง หากสถานการณ์โควิดคลี่คลายสามารถเปิดเรียนได้ตามปกติ ในวันที่ 1ก.ค.นี้ คือให้จัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน100% และใช้สื่อทางทีวีและออนไลน์เป็นการเรียนเสริมตามบริบทของแต่ละพื้นที่ หรือหากพื้นที่ใดยังดูมีความเสี่ยง ให้มีการจัดผลัด เหลื่อมเวลา และการจัดวันเรียนที่ไม่ตรงกัน เพื่อไม่ให้เกิดการรวมตัว แล้วใช้ออนแอร์ ออนไลน์ เป็นตัวสนับสนุน แต่หากเกิดสถานการณ์วิกฤติ เช่นที่ประเทศฝรั่งเศสหลังเปิดเทอมมีนักเรียนติดเชื้อโควิด ก็จำเป็นต้องปิดโรงเรียน หันมาใช้รูปแบบออนแอร์และออนไลน์แทน ทั้งหมดคือสิ่งที่กระทรวงศึกษาฯ เตรียมไว้หากเกิดสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ 
พร้อมขอให้เขตพื้นที่การศึกษา ลดการประเมินหรือจัดกิจกรรม ให้เน้นที่การจัดการเรียนการสอนและกระบวนการเรียนรูของเด็กเป็นหลัก โดย สพฐ.จะเสนอรัฐบาลในการสนับสนุนงบประมาณให้กับครูในเรื่องการลงพื้นที่ไปสำรวจและดูแลเด็กนักเรียนให้เข้าถึงการเรียนการสอนอย่างทั่วถึงในช่วงนี้ด้วย เชื่อมั่นว่าทุกเขตพื้นที่การศึกษามีศักยภาพ และเชื่อมั่นในผู้อำนวยการ ครูทุกโรงเรียน ที่ร่วมดูแลนักเรียนให้ได้รับประโยชน์จากการเรียนรูก่อนที่จะมีการเปิดภาคเรียน สถานการณ์นี้เป็นสิ่งที่ทำให้ได้ร่วมกันเรียนรู้ในเรื่องเทคโนโลยี การเรียนการสอนในระบบออนไลน์มากขึ้น
ด้านนายอนุสรณ์ ฟูเจริญ ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า หลักสูตรและการจัดตารางการเรียนการสอน DLTV เป็นมาตรฐานกลาง ที่ทุกโรงเรียนสามารถใช้ได้ แต่หากโรงเรียนที่นักเรียนเก่งหรือมีความพร้อม ก็สามารถไปสอนเพิ่มเติมในแต่ละรายวิชาได้ สำหรับผังออกอากาศปกติสด เวลา 08.30-14.30 น. นอกจากนี้ยังมีการออกอากาศซ้ำ รีรัน 2 รอบ คือ 14.30-19.30น.และ20.30-01.30น. เพื่อให้นักเรียนหรือผู้ปกครองที่ไม่มีเวลาได้มาเรียนซ้ำ รวมทั้งบ้านที่มีทีวีเครื่องเดียวแต่มีลูกหลายคนจะได้แบ่งเวลาในการเรียนให้ครบทุกคน โดยการเรียนทางไกลผ่านระบบทีวีจะเสถียรที่สุด ส่วนการเรียนผ่านการเข้าเว็บไซต์ของ DLTV หากมีผู้เข้าใช้จำนวนมากในเวลาพร้อมกัน ระบบอาจจะช้า ซึ่งทางมูลนิธิฯจะประสาน CATในการขอเซิร์ฟเวอร์เพิ่ม เพื่อรองรับการเข้าใช้บริการจำนวนมากในเวลาพร้อมกันเพื่อให้ระบบเสถียร .-สำนักข่าวไทย 
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย