ศธ.20พ.ค.-เลขาธิการ กพฐ.เรียกประชุม ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา และ ผอ.โรงเรียน ประเมินปัญหาการเรียนทางไกล ผ่านทีวีและออนไลน์ พร้อมสั่งการให้ลงพื้นที่สำรวจทุกครัวเรือน เบื้องต้นพบมีทีวีดิจิทัล 1.5 ล้านกล่องไม่สามารถรับสัญญาณ DLTV ได้ สพฐ.จึงเร่งประสาน กสทช.ช่วยแก้
นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานในการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา เรื่องการจัดการศึกษาทางไกลในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เชิญมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมมาให้ข้อมูลและชี้แจงแนวทางการแก้ปัญหาการรับสัญญาณช่อง DLTV ผ่านระบบทีวีดิจิทัล ดาวเทียมและออนไลน์ ที่ห้องประชุม สพฐ. 1 กระทรวงศึกษาธิการ
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า การประชุมวันนี้ได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั้งหมด 225 เขต เข้าร่วมประชุม เพื่อเน้นย้ำในสิ่งที่ได้มอบหมายไป รวมถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ซึ่งเป็นการตรวจสอบความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน เพื่อรองรับการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ขอเน้นย้ำว่าการจัดการศึกษาทางไกลเราใช้ทั้งระบบออนไลน์กับออนแอร์ โดยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา จะเห็นว่าประชาชนให้ความสนใจกับระบบออนไลน์เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกันกับระบบออนแอร์ ดังนั้นความพร้อมของทั้งสองสิ่งนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
สำหรับสิ่งที่เน้นย้ำกับผู้อำนวยการเขตฯ คืออยากให้ลงไปดูแต่ละโรงเรียน แต่ละครอบครัวเป็นรายๆ ไป ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นประสบปัญหาอย่างไรบ้าง หากมีปัญหาด้านเทคโนโลยี ก็อาจจะจัดครูที่มีความรู้เรื่องนี้ลงไปดูแลแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น รวมถึงการสำรวจว่าครอบครัวไหนยังไม่มีกล่องทีวีดิจิทัล ก็จะได้หาทางแก้ไข ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีกล่องทีวีดิจิทัลที่ยังรับสัญญาณไม่ได้อีกกว่า 1.5 ล้านกล่อง ในส่วนนี้ก็จะนำไปพูดคุยกับ กสทช. และกระทรวงดิจิทัลฯ ต่อไป
อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือการสร้างความเข้าใจกับนักเรียนและผู้ปกครอง ทั้งในเรื่องที่ผลการเรียนของนักเรียนในช่วงการจัดการเรียนการสอนทางไกล จะไม่ได้นำมาประเมินเพราะถือเป็นช่วงทดลอง และเป็นการปรับพื้นฐาน เตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนที่จะก้าวไปสู่การเรียนในระดับที่สูงขึ้นในปีการศึกษาหน้า และให้นักเรียนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
ส่วนกรณีที่บางครอบครัวมีทีวีเพียงเครื่องเดียวก็สามารถแบ่งเวลาการเรียนและย้อนกลับมาดูรีรันได้ หรือการเรียนกับเพื่อนที่เรียนอยู่ชั้นเดียวกัน มีบ้านอยู่ใกล้กันก็สามารถจับกลุ่มเรียนด้วยกันได้ ตลอดจนความช่วยเหลือจากโรงเรียนและชุมชน ดังนั้น จึงขอให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาเข้าไปดูแลปัญหาที่เกิดขึ้น หากติดขัดอย่างไรก็ให้แจ้ง สพฐ.ได้ทันที โดย สพฐ.จะมีการสรุปผลช่วงแรกในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ครั้งที่2 กลางเดือนมิถุนายน และครั้งที่ 3 ช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งจะเป็นช่วงที่ต้องเติมเต็มในส่วนที่ขาดทั้งหมดก่อนเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมต่อไป
พร้อมย้ำว่า สิ่งที่เรียนในขณะนี้เป็นเพียงการเตรียมความพร้อมและปรับพื้นฐาน ก่อนที่จะมีการเปิดภาคเรียน ในวันที่1ก.ค.2563 พร้อมยืนยันว่า การเปิดเทอมในวันที่ 1 ก.ค.จะเน้นการเรียนในห้องเรียนเป็นหลัก หรือเรียกว่า ออนไซส์ เป็นหลัก ซึ่งจะ100% หรือไม่ขึ้นอยู่กับ ศบค.จะอนุญาตให้เปิดโรงเรียนได้หรือไม่ ซึ่งสพฐ.จะมีการประสานงานอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มีการเตรียมการไว้ 2 แนวทาง หากสถานการณ์โควิดคลี่คลายสามารถเปิดเรียนได้ตามปกติ ในวันที่ 1ก.ค.นี้ คือให้จัดการเรียนการสอนที่โรงเรียน100% และใช้สื่อทางทีวีและออนไลน์เป็นการเรียนเสริมตามบริบทของแต่ละพื้นที่ หรือหากพื้นที่ใดยังดูมีความเสี่ยง ให้มีการจัดผลัด เหลื่อมเวลา และการจัดวันเรียนที่ไม่ตรงกัน เพื่อไม่ให้เกิดการรวมตัว แล้วใช้ออนแอร์ ออนไลน์ เป็นตัวสนับสนุน แต่หากเกิดสถานการณ์วิกฤติ เช่นที่ประเทศฝรั่งเศสหลังเปิดเทอมมีนักเรียนติดเชื้อโควิด ก็จำเป็นต้องปิดโรงเรียน หันมาใช้รูปแบบออนแอร์และออนไลน์แทน ทั้งหมดคือสิ่งที่กระทรวงศึกษาฯ เตรียมไว้หากเกิดสถานการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้
พร้อมขอให้เขตพื้นที่การศึกษา ลดการประเมินหรือจัดกิจกรรม ให้เน้นที่การจัดการเรียนการสอนและกระบวนการเรียนรูของเด็กเป็นหลัก โดย สพฐ.จะเสนอรัฐบาลในการสนับสนุนงบประมาณให้กับครูในเรื่องการลงพื้นที่ไปสำรวจและดูแลเด็กนักเรียนให้เข้าถึงการเรียนการสอนอย่างทั่วถึงในช่วงนี้ด้วย เชื่อมั่นว่าทุกเขตพื้นที่การศึกษามีศักยภาพ และเชื่อมั่นในผู้อำนวยการ ครูทุกโรงเรียน ที่ร่วมดูแลนักเรียนให้ได้รับประโยชน์จากการเรียนรูก่อนที่จะมีการเปิดภาคเรียน สถานการณ์นี้เป็นสิ่งที่ทำให้ได้ร่วมกันเรียนรู้ในเรื่องเทคโนโลยี การเรียนการสอนในระบบออนไลน์มากขึ้น
ด้านนายอนุสรณ์ ฟูเจริญ ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า หลักสูตรและการจัดตารางการเรียนการสอน DLTV เป็นมาตรฐานกลาง ที่ทุกโรงเรียนสามารถใช้ได้ แต่หากโรงเรียนที่นักเรียนเก่งหรือมีความพร้อม ก็สามารถไปสอนเพิ่มเติมในแต่ละรายวิชาได้ สำหรับผังออกอากาศปกติสด เวลา 08.30-14.30 น. นอกจากนี้ยังมีการออกอากาศซ้ำ รีรัน 2 รอบ คือ 14.30-19.30น.และ20.30-01.30น. เพื่อให้นักเรียนหรือผู้ปกครองที่ไม่มีเวลาได้มาเรียนซ้ำ รวมทั้งบ้านที่มีทีวีเครื่องเดียวแต่มีลูกหลายคนจะได้แบ่งเวลาในการเรียนให้ครบทุกคน โดยการเรียนทางไกลผ่านระบบทีวีจะเสถียรที่สุด ส่วนการเรียนผ่านการเข้าเว็บไซต์ของ DLTV หากมีผู้เข้าใช้จำนวนมากในเวลาพร้อมกัน ระบบอาจจะช้า ซึ่งทางมูลนิธิฯจะประสาน CATในการขอเซิร์ฟเวอร์เพิ่ม เพื่อรองรับการเข้าใช้บริการจำนวนมากในเวลาพร้อมกันเพื่อให้ระบบเสถียร .-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม