มุกดาหาร 19 พ.ค. – แม้หลายฝ่ายเชื่อว่า “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ จะถูกฆาตกรรมกลางป่า แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครชี้ชัดว่าเป็นการทำร้ายจนเสียชีวิต หรืออุ้มไปทิ้งในป่า แม้จะมีการเก็บดีเอ็นเอ 7 ผู้ต้องสงสัยไปตรวจแล้ว วันนี้ รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามเงื่อนงำในคดีนี้ด้วยตนเอง
5 วันหลังพบศพน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ นอนเปลือยบนภูเหล็กไฟ อุทยานแห่งชาติภูผายล ในพื้นที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปเหตุการณ์เสียชีวิตได้ชัดเจน แม้กระทั่งผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าใจไม่ตรงกัน จนมีการพูดขยายความออกไป ผลผ่าชันสูตรของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี และสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ แท้จริงแล้วมีความแตกต่างกันในรายละเอียดอย่างไรบ้าง วันนี้แพทย์โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้เข้าแจ้งความคนที่พูดดูหมิ่นแล้ว โดยยืนยันว่าไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายและการล่วงละเมิด และไม่แตกต่างจากสถาบันนิติเวชวิทยา เพียงแต่สื่อนำไปขยายความผิด
อย่างไรก็ตาม ผลผ่าชันสูตรที่ออกมาใหม่นี้ เพิ่มความหวังให้ญาติว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ในเร็ววัน
ขณะที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่บริเวณทางขึ้นเขาภูเหล็กไฟจุดพบศพน้องชมพู่ เพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อมใกล้ที่เกิดเหตุ ก่อนร่วมประชุมกับตำรวจชุดคลี่คลายคดีที่โรงเรียนบ้านกกตูม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจจะเร่งคลี่คลายคดีในดีที่สุด โดยยึดหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง แต่มั่นใจว่าเป็นคดีฆาตกรรมที่เกิดจากการกระทำของบุคคล
ด้านตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหารใช้โดรนบินสำรวจเส้นทางจากบ้านน้องชมพู่ ไปจนถึงจุดเกิดเหตุในทางตรงได้ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร ความสูงจากพื้นราบถึงจุดพบศพกว่า 200 เมตร เพื่อประกอบสำนวนแสดงให้เห็นว่าเด็กเพียง 3 ขวบ ที่ปกติไม่เคยเดินเล่นซุกซนไกลเกินกว่า 50 เมตร จะเดินขึ้นเขาผ่านเส้นทางยากลำบากได้อย่างไร
ขณะนี้ตำรวจเก็บ DNA ผู้ต้องสงสัยไว้แล้ว 7 ราย แต่อยู่ในข่ายต้องสงสัยมากที่สุด 5 ราย ได้แก่ นายแอ๋ม นายเหลิม นายคิด นายเต้ย และนายลิน . – สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
►รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่ติดตามคดี “น้องชมพู่”
► เร่งสางคดี “น้องชมพู่” หลังตรวจพบร่องรอยถูกทำร้าย
►แม่มั่นใจมีคนพา “น้องชมพู่” ไปจากบ้าน ก่อนพบตายปริศนา
►แม่น้องชมพู่ช็อก ผลชันสูตรใหม่ หากหลักฐานพอ เผา 20 พ.ค.
