เปิดใจชาวบ้านหลงป่าบนเทือกเขาขมิ้น

พิษณุโลก 18 พ.ค.-เปิดใจชาวบ้านหลงป่าบนเทือกเขาขมิ้น บอกสาเหตุที่หลงป่าเพราะฝนตก 2 วัน 2 คืน จึงต้องหลบใต้ต้นไม้ หาทางกลับไม่ถูก อาศัยกินผลไม้ป่าประทังชีวิต


ปฏิบัติการช่วย 7 ชีวิตหลงป่า เริ่มในเวลา 11.00 น. เฮลิคอปเตอร์ยกตัวจากลานจอด บินขึ้นไปยังสนามจอด ฮ.บน อช.ทุ่งแสลงหลวง ระยะทางห่างประมาณ 10 กิโลเมตร ทันทีที่เฮลิคอปเตอร์ ลงแตะพื้น ทหารและกู้ภัยชุดล่วงหน้า ได้เตรียมพร้อมนำผู้หลงป่าทั้งหมดขึ้นเฮลิคอปเตอร์ทันที และบินกลับมาลงจอดในสนามจอด ฮ.ชั่วคราว มีรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมในการรับตัว และทันทีที่ผู้หลงป่าลงจากเฮลิคอปเตอร์ ญาติได้เข้ามาสวมกอดด้วยความดีใจ เจ้าหน้าที่พยาบาลได้ตรวจเช็กอาการเบื้องต้นและนำส่งโรงพยาบาลวังทอง 


ขณะที่สุนัขหลงป่าทั้ง 3 ตัว มีอาการตื่นอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเจอญาติเจ้าของมารับก็ดีใจ ประกอบด้วย เจ้าปีเตอร์ เจ้ามอม และเจ้าหมี โดยสุนัขทั้ง 3 ตัวได้ดื่มน้ำที่กู้ภัยจัดมาให้ด้วยความหิวกระหาย และญาติได้พาตัวกลับบ้านพักในหมู่บ้านป่ามะกรูด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


• (คลิป) เปิดปฏิบัติการ ช่วย 7 ชีวิตหลงป่าพิษณุโลก

• เตรียมลำเลียงผู้หลงป่า 4 คน ออกจากอุทยานฯ ทุ่งแสลงหลวง

• พบแล้ว 4 ชาวบ้านหลงป่าทุ่งแสลงหลวง 6 วัน

ผู้สื่อข่าวเปิดเผยว่าขณะที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ ผู้หลงป่า 4 คน แม้ว่าสภาพร่างกายจะอ่อนล้า จากการหลงป่ามาตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม แต่ก็ยังยิ้มได้ นายวิโรจน์  ชัยชนะ อายุ 45 ปี, นางแดง  ชัยชนะอายุ 45 ปี, นางทองรัตน์ กัญยาประสิทธิ์ อายุ 46 ปี และเด็กชายปัญญา น้อยอินทร์ อายุ 14 ปี ชาวบ้านหมู่ 11 บ้านป่ามะกรูด ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พร้อมสุนัขอีก 3 ตัว คือเจ้าปีเตอร์ สีดำปนขาว เพศผู้ อายุ 3 ปี, เจ้ามอม สีน้ำตาล เพศเมีย อายุ 4 ปี และเจ้าหมี สีดำ เพศผู้ อายุ 2 ปี ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาพร้อมกับพลตรีทวีศักดิ์ วงศ์ทวีทรัพย์ ผบ.มณฑลทหารบกที่ 39 

ผู้หลงป่า ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่หลงป่าเพราะมีฝนตก 2 วัน 2 คืน จึงต้องหลบใต้ต้นไม้ ทำให้หาทางกลับไม่ถูก ช่วงที่หลงทางอยู่ในป่าได้อาศัยกินผลไม้ กินลูกมะไฟ ผลไม้ป่า นอนกับพื้นดิน หาดื่มน้ำในลำห้วย โชคดีมีไฟแช็ก 1 ตัว และนางแดง เป็นคนจุดไฟ เพื่อให้สัญญาณ รู้สึกดีใจมากที่ได้กลับบ้านสักที

และทันทีที่ขบวนรถฉุกเฉินทั้ง 4 คันของผู้พลัดหลงป่า เดินทางถึงโรงพยาบาลวังทอง เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายทั้ง 4 คน เข้าทำการรักษาทันที นางสาวเจนจิรา ชัยชนะ อายุ 22 ปี บุตรของนายวิโรจน์ ได้ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า วินาทีที่ทราบข่าวว่าพบทั้ง 7 ชีวิตแล้ว รู้สึกดีใจมาก เป็นวันที่รอคอยมาตลอดเกือบ 1 สัปดาห์ ดีใจมากๆ จนพูดไม่ออก 

ด้านนายจักริน สมบูรณ์จันทร์ ผอ.โรงพยาบาลวังทอง เผยว่า จากการประเมินอาการเบื้องต้นทั้ง 4 คนมีอาการปกติ แต่อาจจะอ่อนเพลีย ไม่มีแรง จากการขาดอาหาร น้ำ และเกลือแร่ ทีมแพทย์ได้ทำการตรวจเลือดจากห้องปฏิบัติการอีกครั้ง เพื่อดูเรื่องการติดเชื้อ ระหว่างนี้จะให้คนไข้ทั้ง 4 เข้ารักษาที่โรงพยาบาลก่อน เพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง