กรุงเทพฯ 18 พ.ค.- “สมชาย” ระบุ หลังมใตรการผ่อนปรน คนไทยเริ่มการ์ดตก เตือนระวังโควิด-19 อาจระบาดรอบ 2 แนะ ศบค. มีมาตรการเข้ม สั่งปิดห้างที่หย่อนมาตรการ จนที่ผู้ติดเชื้อทันที และตลอดไปจนกว่าประเทศจะพ้นวิกฤต
นายสมชาย แสวงการ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึง กรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือ ศบค. ผ่อนปรนมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และให้เปิดห้างสรรพสินค้าได้ ว่า ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่ถือว่าควบคุมการระบาดได้ แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะระบาดได้อีก ดังนั้น ต้องพิจารณามาตรการในการผ่อนปรนอย่างถี่ถ้วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ระบาดรอบที่ 2 เหมือนเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์
“เมื่อผ่อนปรน คนไทยอาจมีอาการการ์ดเริ่มตกบ้าง จึงขอเสนอไปยัง ศบค. กทม.และผู้ว่าฯ ว่า หากพบ มีการติดเชื้อ ต้องมีมาตรการเร่งด่วนและเด็ดขาด เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม มิให้การระบาดรอบ 2 เกิดขึ้นในประเทศไทย และะอาจรุนแรงกว่ารอบแรก ต้องสั่งปิดห้างสรรพสินค้าที่หย่อนมาตรการทันทีไปตลอดจนกว่าประเทศจะผ่านวิกฤติ พร้อมเข้าควบคุมทำความสะอาดฆ่าเชื้อทั้งหมดโดยเร็ว ต้องดำเนินมาตรการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังโรค State Quarantine และ Local Quarantine เพื่อกักตัว14 วันกับทุกคนที่ลงทะเบียนเข้าไปในห้าง ตามวันและเวลาที่มีผู้แพร่ระบาดทันที ไม่มีข้อยกเว้น” นายสมชาย กล่าว
นอกจากนี้ นายสมชาย กล่าวว่า ศบค.ควรสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขตรวจเชื้อเชิงรุกทันทีทั่วประเทศ เพราะจากข้อมูลที่ประเทศไทยตรวจหาเชื้อในรอบแรกไปแล้ว 328,079 คน จากประชากร 66.6 ล้านคน เพียงแค่ 0.92% อาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องอาศัยช่วงที่การระบาดรอบแรกที่น่าจะใกล้ยุติแล้ว ใช้ห้องปฏิบัติการณ์ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 167 แห่งทั่วประเทศ ร่วมมือกับโรงพยาบาลรัฐและเอกชน เร่งระดมตรวจเชื้อเชิงรุกเพิ่มขึ้นอย่างเร่งด่วนต่อไป .- สำนักข่าวไทย