กรุงเทพฯ 18 พ.ค.-จับวัยรุ่นแฮกเฟซบุ๊ก หลอกยืมเงิน เสียหายกว่า 2 แสนบาท ตร.เตือนอย่าใช้ วัน เดือน ปีเกิด หรือเบอร์โทรศัพท์เป็นพาสเวิร์ด จะถูกแฮกได้ง่าย
พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงจับกุม นายไพโรจน์ พิทักษ์ผล อายุ 20 ปี และนายวุฒิ ( ไม่ทราบนามสกุล) ผู้ต้องหาตาม หมายจับ ศาลจังหวัดจันทบุรี ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น หลังติดตามจับกุมได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2 แสนบาท
คดีนี้ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายหลายประมาณ 20 คน เข้าร้องทุกข์กับตำรวจ ในหลายพื้นที่ ว่าถูกคนร้ายแฮกเฟซบุ๊ก เพื่อส่งข้อความไปขอยืมเงินคนรู้จัก ตำรวจจึงสืบสวนติดตาม จนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหา ได้สุ่มหาเบอร์โทรศัพท์และข้อมูลของผู้เสียหายตามเว็บสมัครงาน เมื่อได้ข้อมูลลองนำไปป้อนเป็นพาสเวิร์ด ในเฟซบุ๊ก เมื่อผ่านเข้าระบบได้จะเข้าไปหลอกยืมเงินจากกลุ่มเพื่อนผู้เสียหาย
ขณะเดียวกันคนร้ายอีกคนได้ทำการเปิดเพจรับสมัครงาน ช่วงวิกฤติโรคโควิด-19 หาคนมาทำหน้าที่รับโอนเงินของผู้เสียหาย ที่ถูกหลอกทางเฟซบุ๊ก เปลี่ยนเข้าบัญชีทรู มันนี่ วอลเล็ต ของคนร้าย ซึ่งได้รับผลตอบแทน ร้อยละ 1 จากยอดเงินทั้งหมด จากนั้นคนร้ายจะนำเงินที่ได้รับโอน ส่งต่อไปยังบัญชีธนาคารของ นางสาวคลาวเดียร์ เอี่ยมประเสริฐ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งทำหน้าที่รับซื้อเงินในตลาดมืด เพื่อโอนต่อเข้าบัญชีธนาคารของ นายไพโรจน์ อีกบัญชี
ด้าน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุ กลุ่มผู้ต้องหาเป็นลูกค้าในร้านอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่ง ในจังหวัดจันทรบุรี ซึ่งทดลองทำตามเพื่อน เนื่องจากยังไม่มีคนถูกจับ พร้อมกันนี้ญาติผู้ต้องหาฝากเงินมาคืนผู้เสียหาย 4 ราย รวม 1 แสน 5 พันบาท เพื่อหวังให้ผู้เสียหายถอนแจ้งความ
ทั้งนี้ตำรวจได้ฝากเตือนประชาชนอย่าใช้เบอร์โทรศัพท์หรือวัน เดือน ปีเกิดเป็นพาสเวิร์ด เนื่องจากถูกแฮกได้ง่าย และอย่าระบุข้อมูลส่วนตัวลงหน้าเฟซบุ๊ก เพื่อป้องกันคนร้ายทำไปใช้ในทางที่ผิด .-สำนักข่าวไทย