ศบค.เผยหลังผ่อนปรนมาตรการ พฤติกรรมป้องกันโควิดลดลง

ทำเนียบ 17 พ.ค.-ศบค. เผยผู้ป่วยใหม่ 3 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ชี้หลังมาตรการผ่อนปรน
พฤติกรรมการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-ของประชาชนลดลง ยันยืนพ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉินถึงสิ้นเดือน


 

น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่าวันนี้ (17 พ.ค.)
ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 3 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3,028 ราย รักษาหาย
2,856 ราย รักษาอยู่ 116 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตคงเดิม
รวม 56 ราย โดยผู้ป่วย 3 รายใหม่
เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้ากักกันตัวในสถานที่ของรัฐจัดให้ โดยรายแรก
เป็นนักศึกษาชาย อายุ 23 ปี กลับมาจากปากีสถาน เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม และอีกสองราย
เป็นนักศึกษาชาย อายุ 21 ปีและ 23 ปี กลับมาจากอียิปต์ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม


 

น.พ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อจำแนกจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมตามปัจจัยเสี่ยง
พบว่ามาจาก สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 1,183 ราย อาชีพเสี่ยง 284
รายสนามมวย 276 รายคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 270 ราย และสถานบันเทิง 226 ราย
ขณะที่จำนวนผู้ป่วยยืนยันสองสัปดาห์ล่าสุด พบว่ามาจากศูนย์กักกันตัว จำนวน 23 ราย
ค้นหาเชิงรุกและค้นหาในชุมชน 18 ราย สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 16
รายผู้ป่วยเดินทางจากต่างประเทศ 10 ราย และไปในสถานที่ชุมชนสถานที่ท่องเที่ยว 3
ราย

 


น.พ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์โลกพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 4,720,196 ราย
เสียชีวิต 313,220 ราย สหรัฐอเมริกาพบติดเชื้อมากที่สุด  1,507,773 ราย ส่วนในกลุ่มอาเซียนและเอเชีย
อินเดียมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด 90,648 รองลงมา
คือจีนและปากีสถานขณะที่ไทยอยู่ที่อันดับที่ 70 ของโลก

 

น.พ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงประเด็นที่น่าสนใจ ในต่างประเทศ
พบว่ายุโรปและสหรัฐฯมีจำนวนเด็กที่มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับภูมิต้านทานซึ่งมีความเชื่อมโยงกับโควิด-19
เพิ่มขึ้น ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาโดยมีเด็กอย่างน้อย 5
คนเสียชีวิตจากอาการดังกล่าว ซึ่งเด็ก 3 คนอยู่ในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ และอยู่ในฝรั่งเศสและอังกฤษประเทศละ
1 คน ส่วนอีกอย่างน้อย 2 คนก็เสียชีวิตด้วยอาการคล้ายกัน ขณะที่องค์การอนามัยโลก
หรือ
WHO กำลังศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างโควิด-19
กับโรคที่ทำให้เกิดอาการอักเสบในอวัยวะต่างๆซึ่งทำให้เด็กป่วยและเสียชีวิต
และตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีเด็กจำนวนหนึ่งต้องเข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยหนัก(
ICU) ด้วยกลุ่มอาการข้างต้น
ซึ่งมีลักษณะบางอย่างคล้ายกับโรคคาวาซากิและอาการท็อกซิกช็อก(
TSS)

 

สำหรับพฤติกรรมของประชาชนภายหลังรัฐบาลมีมาตรการผ่อนปรนนั้น น.พ.ทวีศิลป์
กล่าวว่า  พฤติกรรมการป้องกันโดยรวม
ก่อนผ่อนปรนมาตรการ 23-30 เม.ย. ให้ความร่วมมือ  ร้อยละ 77.6 และหลังผ่อนปรนมาตรการ 8-14 พฤษภาคม
 ร้อยละ 72.5  การสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ก่อนผ่อนปรนมาตรการ
ร้อยละ 91.2 หลังผ่อนปรนมาตรการ ร้อยละ 91.0  ล้างมือด้วยสบู่หรือใช้แอลกอฮอล์ทุกครั้งก่อนผ่อนปรนมาตรการร้อยละ
87.2 หลังผ่อนปรนมาตรการร้อยละ 83.4 การเว้นระยะห่างทางสังคม
ก่อนผ่อนปรนมาตรการร้อยละ 86.1 หลังผ่อนปรนมาตรการร้อยละ 82.3
/การไม่เอามือจับหน้า ก่อนผ่อนปรนมาตรการ ร้อยละ 62.9 หลังผ่อนปรนมาตรการร้อยละ
52.9 ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าทุกพฤติกรรมลดลงทั้งหมด

ขณะที่การตรวจกิจการและกิจกรรมที่ผ่อนคลาย จำนวน 20,204 แห่ง พบว่า
มีการปฏิบัติตามมาตรการ 20,153 แห่ง ปฏิบัติตามไม่ครบและได้รับคำแนะนำ 51 แห่ง
คิดเป็นร้อยละ 0.25 และไม่มีผู้ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ

 

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวถึงแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ที่ให้ผู้ประกอบการและประชาชนลงทะเบียน
วันนี้วันแรก หลังมีมาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 2 โดยยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้บังคับ
แต่เป็นการขอความร่วมมือ แต่จะเป็นผลดีกับทุกคนเพื่อ
รับทราบความหนาแน่นของผู้ไปใช้บริการและส่งผลดีกับผู้เปิดกิจการ
และเพื่อเป็นการตรวจสอบมาตรการต่างๆ 
ซึ่งทุกอย่างมีความสะดวกและไม่ได้ยุ่งยาก ซึ่งประชาชน
ผู้ไปใช้บริการให้สแกนคิวอาร์โค้ดของร้านนั้นๆ
เพื่อเข้าไปดูว่ามีผู้ใช้บริการอยู่เท่าไหร่
ทั้งนี้หากมีผู้ใช้บริการติดเชื้อโควิด-19
ก็จะสามารถจำกัดการตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องตรวจแบบหว่านแห  และจะเป็นการประหยัดงบประมาณของภาครัฐด้วย
นอกจากนี้ยังมีช่องทางติดต่อสื่อสารทั้งเบอร์โทร 1119 และ
Line ไทยชนะ
เพื่อตอบข้อซักถามและปัญหาต่างๆ

 

ส่วนเมื่อสถานการณ์ต่างๆดีขึ้น
โดยไม่มีการติดเชื้อเพิ่ม จะมีการพิจารณาไม่ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และใช้
พ.ร.บ.ควบคุมโรคมาใช้แทนหรือไม่ น.พ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม
และหากจะมีการปรับเปลี่ยน คณะกรรมการด้านกฎหมายก็จะมีการเสนอมายังที่ประชุม ศบค.
เพราะต้องประมวลกฎหมายหลายๆด้าน หากจะยกเลิกกฎหมายต่างๆ
ต้องพิจารณาผลกระทบอย่างลึกซึ้ง ทั้งสถานการณ์ในไทยและของโลก
ส่วนการประกาศห้ามบินเข้าไทย จนถึง 30 มิ.ย. แต่ยังมีคนไทยตกค้างอยู่ในต่างประเทศ
เรื่องนี้ต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบ ทั้งการมีพื้นที่รองรับ ผู้ที่เดินทางกลับมา
รวมถึงต้องมีเที่ยวบินที่บินกลับเข้าไทยด้วยและผู้ที่จะเดินทางเข้ามาจะต้องมีการลงทะเบียนไว้ให้เรียบร้อย.สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สั่ง 4 ข้อยกระดับมาตรฐานซาฟารีเวิลด์ ห่วงความปลอดภัยและสวัสดิภาพสัตว์

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – อธิบดีกรมอุทยานฯ มีคำสั่งด่วนถึงซาฟารีเวิลด์ ให้ปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้ายโดยเร็ว พร้อมกำหนด 4 มาตรการเข้มที่ต้องปฏิบัติเพื่อยกระดับความปลอดภัยทั้งต่อนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ชี้เป็นห่วงสุขภาพและสวัสดิภาพสิงโต เบื้องต้นพบมีภาวะเครียดและมีอาการโรคผิวหนัง ส่วนกรงยังมีไม่เหมาะสมเพียงพอ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงบริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้าย หลังเกิดเหตุสิงโตในโซนจัดแสดงแบบเปิดรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์จนเสียชีวิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ พบข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยหลายประการเช่น ไม่มีระบบกั้นพื้นที่อย่างปลอดภัย ไม่มีประตูนิรภัยสองชั้น และขาดอุปกรณ์ควบคุมสัตว์ที่เหมาะสม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าใกล้สัตว์โดยตรงขณะปฏิบัติงาน กรมฯ จึงกำหนด 4 มาตรการเร่งด่วน ที่บริษัทต้องดำเนินการให้ครบถ้วน ดังนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำว่า ได้ให้บริษัทเร่งปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยทั้งของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ก่อนหน้านี้ กรมอุทยานฯ ได้มีคำสั่งปิดการจัดแสดงสิงโตและสัตว์ดุร้ายในสวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์เป็นการชั่วคราวหลังเกิดเหตุ โดยคำสั่งล่าสุดนี้ ถือเป็นการกำหนดรายละเอียดแนวทางแก้ไขเชิงระบบ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังแสดงความห่วงใยถึงสุขภาพและสวัสดิภาพของสิงโต 5 ตัวที่รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตวว์ เป็นเพศผู้ 3 ตัว เพศเมีย 2 […]

ชาวบ้านเฮ! ปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยังได้สำเร็จ

ร้อยเอ็ด 12 ก.ย. – สามารถปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยัง บริเวณบ้านทรายมูล อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน เร่งช่วยกันซ่อมแซม ปฏิบัติการเร่งซ่อมพนังกั้นลำน้ำยังที่ขาด บริเวณบ้านทรายมูล หมู่ 4 ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทำให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมนาข้าวเสียหายกว่า 5,000 ไร่ ครอบคลุม 3 ตำบล นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน ใช้ทั้งแรงคนและเครื่องจักรหนัก รถบรรทุกทราย และถุงบิ๊กแบ็กปิดกั้นรอยแตก นอกจากนี้ยังนำเสาไฟฟ้า 16 ต้น มาวางพาดขวางเสริมฐานความแข็งแรง ร่วมกับท่อนไม้ขนาดใหญ่ เพื่อชะลอความแรงของกระแสน้ำ ก่อนใช้รถแบ็กโฮจัดวางถุงทรายทับซ้ำอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้แนวป้องกัน เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (11 ก.ย.) สามารถปิดบริเวณที่ขาดได้สำเร็จ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด กล่าวว่า หลังจากปิดกั้นจุดที่ขาดเสร็จสิ้น […]

‘เจนซี’ เนปาลเรียกร้องยุบสภา-ตายเพิ่มเป็น 34 ราย

กาฐมาณฑุ 12 ก.ย. -ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงรุนแรงในเนปาล เพิ่มเป็น 34 ราย ผู้นำเยาวชนเรียกร้องให้ยุบสภา และสนับสนุนอดีตประธานศาลฏีกาหญิง เป็นผู้นำประเทศชั่วคราว หลังการประท้วงรุนแรง 2 วันจนนายกรัฐมนตรีต้องลาออก โอจาชวี ราช ทาปา ผู้นำเยาวชนเนปาล เรียกร้องให้ยุบสภาหลังการเจรจากับกองทัพในกรุงกาฐมาณฑุเมื่อวานนี้ และบอกว่า พวกเขาสนับสนุนให้ สุชิลา คาร์กี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นหัวหน้ารัฐบาลรักษาการ พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกรัฐธรรมนูญ แต่เสริมว่ายังมีสิ่งที่ต้องแก้ไขอีกมาก ขณะที่แกนนำเยาวชนอีกคนอ้างว่า พวกเขาได้ประท้วงอย่างสันติหลังจากได้รับอนุญาตจากนายกเทศมนตรีของกรุงกาฐมาณฑุ แต่รัฐบาลกลับสั่งให้ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่พวกเขาเพื่อหวังสลายการชุมนุมจนนำไปสู่ความรุนแรงเป็นเหตุจลาจลนองเลือด เผาทำลายอาคารรัฐสภา จนนายกรัฐมนตรี เคพี ชาร์มา โอลี ต้องลาออก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงเพิ่มเป็น 34 ราย บาดเจ็บ 1,033 คน ส่วนเมื่อวานนี้ ทหารยังคงลาดตระเวนตามท้องถนนที่เงียบสงบของกรุงกาฐมาณฑุ ร้านค้าและโรงเรียนยังคงปิด ส่วนหน่วยงานบริการสำคัญบางแห่งกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เหตุความวุ่นวายในเนปาลรอบนี้ มีที่มาจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ถูกยกเลิกไปหลังจากมีผู้เสียชีวิต 19 รายในวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนที่การประท้วงจะขยายไปเป็นการต่อต้านการทุจริตของนักการเมืองและข้าราชการ รวมถึงบรรดาลูกท่านหลานเธอและอภิสิทธิ์ชน ที่นำเสนอชีวิตหรูหราสุขสบายของพวกเขาผ่านทางสื่อออนไลน์ ในขณะที่ชาวเนปาลจำนวนมากยังมีชีวิตที่ยากลำบาก การประท้วงนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นการเคลื่อนไหวของคนเจนซี […]

อุตุฯ เผยไทยยังมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย