ตรัง 16 พ.ค.- หญิงวัย 66 ปีช็อก! ร้องไห้ทุกวันหลังเงินเยียวยาหายไปจากบัญชี ทั้งที่เตรียมจะเอาเงินไปใช้หนี้ค่าเช่าบ้านที่ผัดผ่อนมา 3 เดือน ก่อนเข้าแจ้งความให้ตำรวจช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย ลงพื้นที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง เขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เพื่อพบกับนางละมุล ศรีวุ่น อายุ 66 ปี หลังได้รับการแจ้งเบาะแสว่า เงินเยียวยา “โควิด-19” จำนวน 5,000 บาทหายไปจากบัญชี
นางละมุล ให้ข้อมูลว่า บ้านที่อยู่เป็นบ้านเช่าอยู่มา 2 ปีจำนวน 3 คน คือตนเอง, สามีวัย 70 ปี และหลานชายวัย 12 ปี เดิมที่นางละมุล ได้รับจ้างนวด แต่พอเกิด “โควิด-19” จึงไม่ได้ทำงานมานาน 2 เดือน เงินที่ประทังชีวิตคือได้จากเงินผู้สูงอายุ, บัตรประชารัฐ และเพิ่งได้เงินเยียวยา “โควิด-19” จากรัฐบาล หวังจะนำเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้าน 3 เดือนที่ผัดผ่อนมานาน
จากนั้นเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พบว่าลูกสะใภ้แจ้งว่าได้เงินเยียวยาเข้าบัญชีแล้ว จากนั้นวันที่ 12 พฤษภาคมได้เตรียมไปธนาคารออมสินเพื่อเบิกเงิน แต่ระหว่างทางได้เดินไปธนาคารกรุงเทพ สาขาใกล้บ้านเพื่อไปรับบัตรเอทีเอ็มที่ได้แจ้งทำบัญชีไว้ก่อนหน้านี้ แต่ธนาคารแจ้งว่ายังไม่ได้บัตร ก่อนเดินทางออกจากธนาคารกรุงเทพ ไปที่ธนาคารออมสิน สาขาย่านตาขาว โดยขณะที่กำลังเดินไปมีผู้หญิงคนหนึ่ง อายุประมาณ 40 ปีเดินเข้ามาหา และอาสาประคองพาไปที่ธนาคารออมสิน เพราะเห็นว่าตนเองเหมือนจะเดินไม่ไหว จากนั้นหญิงคนดังกล่าวได้สอบถามเกี่ยวกับการมาทำธุระที่ธนาคาร นางละมุลจึงบอกว่าจะไปกดเงินเยียวยา ก่อนที่หญิงสาวคนดังกล่าวจะอ้างว่า “ทำไมไม่กดที่ธนาคารกรุงเทพ?” ทำให้นางละมุล บอกว่า “ทำไม่เป็น?” หญิงคนดังกล่าวจึงอาสาทำให้ โดยพาไปที่หน้าตู้ ใช้บัตรธนาคารออมสิน กดที่เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ ก่อนเช็กยอดบัญชี และพบว่ามีเงินอยู่ 5,050.45 บาท
จากนั้นหญิงคนดังกล่าวได้ถามว่าจะกดทั้งหมดหรือไม่ นางละมุล จึงตอบไปว่า กดทั้งหมด แต่จากนั้นปรากฏว่ากดไป 2 ครั้งเงินไม่ออก ทำให้นางละมุล ขอบัตรคืนเพราะกลัวตู้จะกลืนบัตร ก่อนจะไปกดเงินเองที่ตู้ธนาคารออมสิน
เมื่อไปถึงธนาคารได้ให้พนักงานช่วยกดเงินให้ แต่ปรากฏว่าเงินในบัญชีเหลือเพียง 50.45 บาท จึงรู้สึกแปลกใจมาก เพราะก่อนหน้าที่หญิงคนดังกล่าวจะตรวจสอบยอดเงินยังพบว่ามีเงินอยู่ 5,050.45 บาท และระหว่างที่หญิงคนดังกล่าวตรวจสอบยอดเงินให้ก็ยืนดูอยู่ด้วยกัน
นางละมุล เล่าว่า หลังเกิดเหตุได้กลับไปบ้านและเล่าเรื่องราวให้ลูกๆ ฟัง จึงให้ลูกไปตรวจสอบกับธนาคารออมสิน และพบว่าเงินถูกกดออกไปจากตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม เวลา 09.40 น. จึงพยายามขอตรวจสอบกับกล้องวงจรปิดของธนาคารกรุงเทพ แต่ธนาคารปฏิเสธ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นนางละมุล ได้เข้าแจ้งความพนักงาน สภ.ย่านตาขาว ให้ตรวจสอบ จากนั้นจึงพาตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ พร้อมให้ชุดสืบสวนฯ ไล่กล้องวงจรปิดตรวจสอบมิจฉาชีพรายดังกล่าวตามจุดเกิดเหตุ
ขณะที่นางใจดาว วงศ์ศิลา ลูกสาว “ป้าละมุล” บอกว่า สงสารแม่มากเพราะรอคอยเงินเยียวยามานาน เพราะหลังจากที่เงินหายไป แม่นั่งเสียใจร้องไห้ทุกวัน ทุกคนจึงปลอบใจว่าเงินเยียวยาจะเข้าอีกรอบ จึงไม่ต้องเสียใจและจะได้เอาเงินไปจ่ายค่าเช่าบ้านต่อไป.-สำนักข่าวไทย