กรุงเทพฯ 16
พ.ค.-กฟผ. ร่วมบริหารจัดการน้ำรับมือภัยแล้ง ตามแนวทาง สทนช.
ติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อน พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชน รอบพื้นที่เขื่อนของ กฟผ.
และ เตรียมแผนบริหารจัดการน้ำฯ ช่วงฤดูฝนที่จะถึงนี้
นายประเสริฐ
อินทับ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
(กฟผ.) เปิดเผยถึงการบริหารจัดการน้ำของ กฟผ. ในช่วงฤดูแล้งนี้ว่า
ได้ดำเนินการภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) โดยเขื่อนภูมิพล
เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนห้วยกุ่ม และเขื่อนรัชชประภา
มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย และเขื่อนอุบลรัตน์
มีปริมาณน้ำต่ำกว่าระดับเก็บกักต่ำสุด โดยให้มีการระบายน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศเท่านั้น
และ กฟผ. ได้มีส่วนร่วมดำเนินการบรรเทาและแก้ไขปัญหาผลกระทบ
ด้วยการสนับสนุนน้ำอุปโภค-บริโภคปริมาณน้ำรวม 1,612,632 ลิตร ให้แก่ชุมชนในพื้นที่รอบทุกเขื่อนที่ดูแล
ทั้งยังให้บริการน้ำดิบและน้ำประปา 28,000,000
ลิตร เพื่อใช้ในชุมชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง พร้อมสนับสนุนน้ำดิบและน้ำประปา
เพื่อนำไปใช้อุปโภคและทำการเกษตรผ่านโครงการต่างๆ ได้แก่
โครงการสูบน้ำจากหน้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์
ส่งน้ำลงท่อที่เขื่อนดินช่องเขาขาด เพื่อส่งน้ำไปลงบ่อพักด้านท้ายเขื่อน
และผ่านท่อของโครงการจัดหาน้ำผู้อพยพท้ายเขื่อนสิริกิติ์ ตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และคลองสิงห์ กว่า 2.18 ล้าน ลบ.ม.
เพื่อช่วยเหลือชุมชนที่อยู่บริเวณริมคลองสิงห์ให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการใช้อุปโภคตลอดช่วงฤดูแล้ง
นอกจากนั้น
ช่วงฤดูฝนที่จะถึงนี้ กฟผ. ยังมีแผนตรวจสอบและประเมินความมั่นคงปลอดภัยของตัวเขื่อน อ่างเก็บน้ำ อาคารชลศาสตร์
ระบบระบายน้ำ และสถานีโทรมาตร ให้พร้อมใช้งาน
ตลอดจนตรวจสอบสิ่งกีดขวางทางน้ำที่จะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการระบายน้ำและอาจส่งผลให้เกิดปัญหาท่วมขัง พร้อมกันนี้ได้ดำเนินการสร้างฝายชะลอน้ำบริเวณป่ารอบพื้นที่เขื่อนภูมิพล
เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนรัชชประภา รวม 415 ฝาย
เพื่อชะลอการไหลของน้ำไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วม ช่วยลดการพังทลายของดิน
และช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในฤดูแล้ง เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป.–สำนักข่าวไทย