สธ.จัดบริการการแพทย์แบบวิถีใหม่ ป้องกันโควิด-19

สธ.15 พ.ค.-สธ.ปรับบริการทางการแพทย์รูปแบบวิถีใหม่ ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยการสื่อสารระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย ส่งยาถึงบ้าน ลดการมาโรงพยาบาล ลดแออัด ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19


บ่ายวันนี้(15พ.ค.)ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก จึงต้องกำหนดมาตรการต่างๆ เช่น การรักษาระยะห่างในสังคม (Social distancing) การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชน รวมทั้งปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ การเพิ่มระยะห่าง ลดความแออัดที่โรงพยาบาล มีการจัดกลุ่มผู้ป่วยและจัดบริการให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม โดยนำระบบเทคโนโลยีมาใช้ รวมทั้งลดความเหลื่อมล้ำ  เพิ่มการเข้าถึง และยกระดับคุณภาพบริการ ระบบการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลภาพรวมของประเทศ


นายสาธิต กล่าวต่อว่า การให้บริการทางการแพทย์แบบวิถีใหม่ (New Normal of medical Service) มุ่งเน้นการรักษาให้เหมาะสมเฉพาะบุคคล โดยแยกกลุ่มประเภทผู้ป่วยเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มที่ดูแลตนเองได้ดี ไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ ไม่ต้องมาโรงพยาบาล ใช้การจัดส่งยาให้ต่อเนื่อง ,กลุ่มที่ต้องการปรึกษาแพทย์ด้วยคำถาม  หรือปัญหาเล็กน้อยบางอย่างโดยไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล ให้บริการ Tele -medicine โดยผ่านระบบการสื่อสาร และกลุ่มสุดท้ายที่มีความจำเป็นต้องมาพบแพทย์โรงพยาบาลจริง รวมทั้งพัฒนา Digital Solution เป็นเครื่องมือให้แพทย์และคนไข้สามารถติดต่อพูดคุยและปรึกษากัน โดยไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล และใช้เทคโนโลยีอื่น ๆ มาใช้อำนวยความสะดวกในการบริการด้วย


ด้านนพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้พลิกวิกฤติเป็นโอกาส เกิดการพัฒนาและปรับระบบบริการทางการแพทย์ใหม่ (New Normal Medical Services) คือมีระบบการแบ่งกลุ่มและจัดบริการตามความจำเป็นของแต่ละบุคคล ตามระดับความรุนแรง ความซับซ้อน ความเร็วของการดำเนินโรค , การจัดระบบสนับสนุนการดูแลตนเอง อาทิ  ข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล ความรอบรู้           ด้านสุขภาพ แอปพลิเคชันและสื่อ ระบบติดตามรายบุคคล  

ระบบข้อมูลด้านสุขภาพ ฐานข้อมูลผู้ป่วยระหว่างหน่วยบริการ ระบบการส่งต่อผู้ป่วยที่เชื่อมโยงกัน, ระบบบริการที่เข้าถึงง่ายขึ้น สะดวกรวดเร็วขึ้นด้วยระบบ IT ลงทะเบียน/นัดหมายล่วงหน้าทางออนไลน์ การตรวจทางห้องปฏิบัติการแบบ drive thru การรับยาร้านยาใกล้บ้าน การส่งยาทางไปรษณีย์ การปรึกษาทางไกล, ระบบการบริหารจัดการเตียงร่วมกันระหว่างหน่วยบริการ , ยกระดับความปลอดภัยด้านการป้องกันการติดเชื้อในสถานพยาบาล ทั้งการจัดสถานที่ อุปกรณ์ป้องกัน ระบบบริการ และความรู้บุคลากร

ด้าน นพ.อนุพงค์ สุจริยากุล นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ในประเทศไทย ว่า วันนี้มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 4 ราย คิดเป็นร้อยละ 94.35 ของผู้ป่วยทั้งหมด รวมกลับบ้านสะสม 2,854 ราย ขณะที่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย (ทั้งหมดอยู่ในสถานกักตัวเฝ้าระวังโรคที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศปากีสถาน) ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 115 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 3.80 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิต 56 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,025 ราย

สำหรับคนไทยที่ตกค้างในต่างประเทศที่ได้ทยอยเดินทางเข้าประเทศนั้น รัฐบาลได้มีมาตรการรองรับโดยให้ทุกคนต้องเข้ารับการกักตัวเพื่อเฝ้าระวังโรคเป็นเวลา 14 วัน ก่อนอนุญาตให้กลับภูมิลำเนา และหากรายใดป่วยจะนำเข้าสู่ระบบการรักษาได้อย่างทันท่วงที เป็นมาตรการป้องกันการนำเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาแพร่ให้กับคนในประเทศ

การป้องกันโรคที่ดีที่สุดคือการสวมหน้ากากผ้า-หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร และล้างมือบ่อยๆ หากต้องการออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ จะต้องผ่านการคัดกรองที่จุดคัดกรองของสวนสาธารณะทุกครั้ง ไม่ควรรวมกลุ่ม รีบกลับบ้านทันทีเมื่อออกกำลังกายเสร็จ ส่วนผู้ดูแลสวนสาธารณะต้องทำความสะอาดโดยเฉพาะบริเวณพื้นผิวที่มีผู้สัมผัสบ่อย และขอแนะนำประชาชนควรงดออกกำลังกายที่ต้องเล่นเป็นทีม  มีการปะทะกัน เช่น ฟุตบอล วอลเลย์บอล บาสเก็ตบอล เนื่องจากอาจเกิดการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย ของผู้อื่นทำให้เกิดความเสี่ยงติดโรคได้ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี

หมายจับ สส.ปูอัด

“สส.ปูอัด” เงียบหาย หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” เงียบหาย ไม่รับสายสื่อ หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน ด้าน “เลขาสภาฯ” เผยเรื่องยังไม่ถึงสภา หากมาแล้วต้องบรรจุวาระขอสมาชิกให้อนุญาตดำเนินคดี

มือถือแตงโม

ดีเอสไอรับมอบมือถือแตงโม ส่งสถาบันนิติวิทย์ฯ ตรวจดีเอ็นเอ เช้านี้

โทรศัพท์มือถือ “แตงโม ภัทรธิดา” ถึงมือดีเอสไอ เก็บเข้าห้องมั่นคงลับสูงสุดตลอดคืน เช้านี้นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าห้องแล็บตรวจหาหลักฐาน