กทม. 14 พ.ค. – ซีอีโอ ปตท.คนใหม่ พร้อมรับมือผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และสงครามราคาน้ำมันที่เกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งสานต่อการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม ปตท. ให้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลง พัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตของคนไทยให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. วันแรกเมื่อวานนี้ ระบุจะสานต่อการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม ปตท. ให้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลง โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ทุกภาคส่วน ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ พัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตของคนไทยให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ซึ่งโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลก และของไทยกระทบมาถึงกลุ่ม ปตท. นับเป็นเรื่องท้าทาย ซึ่งสถานภาพองค์กรขอให้มั่นใจว่ามีความแข็งแกร่ง ปตท. มีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 และสงครามราคาน้ำมันที่เกิดขึ้นในอนาคต
จากการประเมินฐานะการเงิน ปตท. มั่นใจว่าผลการดำเนินงานปี 2563 จะเป็นบวก แม้ในไตรมาส 1/2563 จะมีผลขาดทุนสุทธิ 1,550 ล้านบาท กระทบกับผลการดำเนินงานของ ปตท. ในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ขณะที่คาดว่าธุรกิจน่าจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และ 4
นอกจากนี้ได้เน้นย้ำกับพนักงานของ ปตท. ว่าแม้รัฐจะผ่อนคลายมาตรการต่างๆ แต่พนักงาน ปตท. ทุกคนยังต้องเคร่งครัดกับการดูแลตัวเองตามมาตรการรัฐ ในเรื่องการรักษาระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย ดูแลเรื่องความสะอาด เพื่อเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้โควิด-19 เกิดการระบาดซ้ำ
ส่วนการปรับตัวรองรับสถานการณ์และลดผลกระทบของ ปตท. ได้มีการจัดตั้ง PTT Group Vital Center ขึ้นมา เพื่อที่จะดูแลและบริหารจัดการในช่วงนี้ รวมทั้งการวางแผนไปข้างหน้า โดยการบริหารจัดการจะดำเนินการตาม 4 R ประกอบด้วย Resillience การสร้างความยืดหยุ่นและการปรับตัวในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง Restart เตรียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจนำพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า กลับสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด รักษาความสามารถในการแข่งขันของกลุ่ม ปตท. ไว้ให้ได้ Re-imagination การเตรียมความพร้อมที่จะออกแบบธุรกิจให้รองรับการเปลี่ยนทางธุรกิจที่จะเป็น Next Normal ทั้งธุรกิจ ต้นน้ำ ปลายน้ำ และ New S Curve และ Reform จะต้องมีการปรับเปลี่ยน จัดโครงสร้างองค์กร รูปแบบธุรกิจใหม่ให้สอดคล้องกับทิศทางในอนาคตพร้อมรองรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดแบบไม่คาดคิดได้ทุกเมื่อ.-สำนักข่าวไทย