เครือข่ายเด็กเยาวชนฯ ยื่น ยธ.ช่วย นร.เหยื่อ 5 ครูขยี้กาม

ยธ.12 พ.ค.-รมว.ยุติธรรม กลัวคดีพลิก ประสานอัยการใช้อำนาจพิเศษ สอบพยานล่วงหน้า ช่วยเหยื่อ 5 ครูขยี้กามนักเรียน หนุน “ทิชา”ลงพื้นที่มุกดาหารพรุ่งนี้


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) รับหนังสือจากนางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก พร้อมนายชูวิทย์ จันทรส เลขาธิการมูลนิธิ เด็ก เยาวชน และครอบครัวฯ ซึ่งเรียกร้องให้นำครอบครัวของนักเรียนนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาที่ 2 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 ผู้เสียหายที่ถูกครู 5 คนและรุ่นพี่ 2 คน ข่มขืนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จังหวัดมุกดาหาร  เข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน  เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับการประกันตัว ทำให้น่าเป็นห่วงว่าผู้เสียหายและครอบครัวน่าจะถูกข่มขู่คุกคาม เอาชีวิตและอาจเสียหายต่อรูปคดี  เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ก่อเหตุจำนวนมากและมีการกระทำกันเป็นขบวนการมายาวนานหลายปีและอาจมีอิทธิพลอำนาจแฝงเข้ามาเกี่ยวข้อง 


รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ได้รับหนังสือแล้ว มีความเห็นตรงกันว่าจำเป็นจะ ต้องเร่งเข้าไปให้การเยียวยาจิตใจของเด็กที่ถูกกระทำ โดยจะร่วมมือกับมูลนิธิเด็กและเยาวชนเข้าไปให้ความช่วยเหลือโดยเร็ว โดยในวันพรุ่งนี้ (13พ.ค.) ทีมงานจะลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหารเพื่อประสานเรื่องคดี เนื่องจากการสืบสวนในคดีทั่วไปมักจะใช้เวลานานประมาณ 3 เดือน และส่งให้อัยการพิจารณาอีกประมาณ 3 เดือน จึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการไต่สวนที่ศาล ดังนั้นจึงต้องเร่งรัดขอให้พนักงานสอบสวนประสานกับอัยการจังหวัดมุกดาหารสืบพยานไว้ก่อนฟ้อง ซึ่งเป็นอำนาจพิเศษตามประมวลกฎหมาย ป.อาญา มาตรา 237 ทวิ ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็น เนื่องจากจำเลยมีอิทธิพลต่อโจทย์ในการข่มขู่เป็นครูอาจารย์มีผลทำให้ผู้เสียหายกระทบ กระเทือนจิตใจหากปล่อยเวลานานไปเด็กอาจไม่อยากไปให้ปากคำ ดังนั้นจึงจะเร่งประสานให้พนักงานสอบสวนประสานไปยังอัยการจังหวัดมุกดาหารเพื่อเร่งดำเนินการโดยเร็ว

โดยมีเหตุผลสำคัญที่ใช้ในการขอใช้กฎหมายพิเศษนี้ คือในช่วงเวลานี้ ผู้เสียหายยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แม่นยำ รวมทั้งร่องรอยการกระทำผิดจะชี้ชัดให้เห็นถึงพฤติการณ์ทำให้ศาลรับฟังข้อเท็จจริงได้มากที่สุด หากทำได้เร็วก็จะไม่มีเหตุแทรกซ้อน เช่น มีการเจรจาไกล่เกลี่ยให้ยอมความหรือทำให้คดีพลิก อย่างไรก็ตามเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น โดยมั่นใจว่า หากผู้กระทำผิด เห็นหลักฐานจากการไต่สวนพยานล่วงหน้าแล้ว อาจทำให้รับสารภาพได้ และคดีประเภทนี้ไม่อยากให้จบลงด้วยการเจรจายอมความ เพราะผู้เสียหายเป็นเด็กและเยาวชนซึ่งไม่ควรถูกกระทำในลักษณะนี้


ด้านนางทิชา กล่าวว่า จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหารในวันพรุ่งนี้เพื่อพูดคุยกับเด็กและครอบครัวที่ตกเป็นเหยื่อ ส่วนตัวเห็นว่าเด็กที่ถูกละเมิดทางเพศมาเป็นเวลายาวนาน จะมีความบอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจและรู้สึกด้อยค่าและไม่ได้รับความเป็นธรรม หากปล่อยให้เข้าสู่กระบวน การยุติธรรมตามปกติยิ่งเป็นการซ้ำเติม เหมือนกับถูกละเมิดซ้ำอีกครั้ง  ดังนั้นหน่วยงานต้องเข้าไปช่วยเหลือให้เด็กรู้สึกได้รับความปลอดภัย มีความรู้สึกที่เข้มแข็งจนนำไปสู่การให้ข้อมูลหลักฐานที่หนักแน่นสามารถลงโทษผู้กระทำผิดได้และเข้าถึงความเป็นธรรมให้เร็วที่สุด

ส่วนเรื่องการคุ้มครองพยานไม่อยากให้มีการคุ้มครองเฉพาะช่วงที่เป็นข่าวเท่านั้น แต่อยากให้ดูแลจนเด็กสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติและกลับไปเรียนหนังสือได้ตามเดิม 

“เด็กที่ถูกกระทำไม่ใช่เด็กเลว แต่เป็นเหยื่อของพวกผู้ใหญ่ อยากทำให้ผู้ใหญ่เหล่านี้ถูกลงโทษตามกฏหมาย  เช่นเดียวกับกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับคดีค้ากามเด็กสาวที่บ้านน้ำเพียงดิน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งคดีนี้ผู้ต้องหาถูกตัดสินจำคุก 300 ปี”นางทิชา กล่าว

ส่วนความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเยียวยาของกระทรวงยุติธรรมในส่วนของการให้ความช่วยเหลือคุ้มครองพยานในคดีอาญา สำนักงานคุ้มครองพยานได้ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 10 พ.ค.63 ผู้เสียหายและญาติทั้ง2 ราย ไม่ประสงค์ยื่นคำขอรับการคุ้มครองพยาน เนื่องจากไม่มีผู้ใดข่มขู่แต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตามสำนักงานคุ้มครองพยาน ได้ประสาน สภ.ผึ่งแดด จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยตรวจตรา ดูแลความปลอดภัยทั้งเวลากลางวัน และกลางคืน

ส่วนการให้ความช่วยเหลือจ้างทนายจากกองทุนยุติธรรม กรณีนี้เหตุเกิดในสถานศึกษา จึงมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อผู้เสียหาย จึงเห็นควรใช้กลไกด้านกองทุนยุติธรรมในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับสถานศึกษา โดยวันที่ 10 พ.ค.63 สำนักงานยุติธรรมจังหวัดมุกดาหารรับ คำขอความช่วยเหลือกองทุนยุติธรรมจากผู้เสียหายที่ 1 และ 2  พร้อมกันนี้ได้ประสานทนายความกองทุนยุติธรรมในการเตรียมความพร้อมที่จะดำเนินการทางคดีได้โดยทันที่เมื่อได้รับอนุมัติ . –สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย