สธ.11พ.ค..-วิเคราะห์ผู้ป่วยรายใหม่ พบเชื้อยังกระจายในชุมชน แนะการ์ดอย่าตก เพื่อไม่ให้เกิดระบาดรอบ 2
นายแพทย์ อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อ โควิด-19 พบผู้ป่วยรายใหม่ 6 คน แบ่งเป็นผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้ที่จังหวัดนราธิวาส 1 คน / ไปในสถานที่ชุมชนในจังหวัดภูเก็ต 1 คน / ประกอบอาชีพเสี่ยง, ทำงานในสถานที่แออัด พบที่จังหวัดภูเก็ต 3 คน (เป็นตำรจ, พนักงานบริษัท, พนักงานขายของ) / และจากการคันหาเชิงรุก (Active Case Finding) ที่จังหวัดยะลา 1 คน จากข้อมูลผู้ติดเชื้อรายใหม่ชี้ให้เห็นว่ายังมีผู้ติดเชื้อกระจายตัวอยู่ในชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงที่เคยมีรายงานผู้ติดเชื้อมาก่อนหน้านี้ เช่น ภูเก็ต ยะลา นราธิวาส รวมถึงมีการติดเชื้อภายในครอบครัว ดังนั้นจึงควรวางแผนการเดินทาง ออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็น หากจำป็นต้องไปจับจ่ายชื้อของควรจดรายการที่ต้องซื้อล่วงหน้า เนื่องจากการออกนอกบ้านแต่ละครั้ง หรือไปในสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้
นายแพทย์ อนุพงศ์ ย้ำว่าขณะนี้เราอยู่ในระยะผ่อนปรนมา 10 วันแล้ว ซึ่งมีการปรับตัวเข้าสู่วิถีปกติใหม่ หรือ New Normal ทั้งการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร หลีกเสี่ยงหรือไม่เข้าไปอยู่ในสถานที่แออัด ที่มีคนรวมกันจำนวนมาก เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีผู้สัมผัสรายใหม่ รวมทั้งยังสนับสนุนการทำงานจากที่บ้าน หรือ Work From Home ซึ่งประชาชนและสถานประกอบการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งกำลังจะมีการผ่อนปรนรอบ 2 จึงขอเน้นย้ำเสมอว่า “การ์ดอย่าตก” เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดรอบ 2 อย่างที่ในบางประเทศกำลังเกิดขึ้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้ผู้ประกอบการ สำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาพวะหรือ สสส.ร่วมกับเครือข่าย จัดทำคู่มือคำแนะนำ 12 ประเภทกิจการ วิธีป้องกันตัวเอง และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ในแบบที่เรียกว่า “เปิดเมืองให้ปลอดโรคด้วย 12 ตัวอย่าง” ได้แก่ ตลาดสด ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ กิจกรรมสันทนาการ ร้านตัดผม ร้านบริการตัดแต่งขนสัตว์เลี้ยง สนามกอล์ฟ สนามกีฬา การเดินทาง ทั้งรถโดยสารสาธารณะ เรือ เครื่องบิน มอเตอร์ไซค์รับจ้าง และรถไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตรูปแบบใหม่นำเสนอในรูปแบบอินโฟรกราฟฟิกต่างๆเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายนำไปปรับใช้ในทีวีประจำวันได้ สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ สสส. http://www.thaihealth.or.th/ หรือเว็บไซต์ เปิดเมืองปลอดภัย http://thai.care/.-สำนักข่าวไทย