กรุงเทพ 10 พ.ค. -โฆษกกองทัพเรือ แจง ทร.ได้รับอนุญาตใช้พื้นที่ป่า มา30 ปี แล้ว ใช้ในการซ่อนพรางหน่วย ซ่อนพรางยุทโธปกรณ์ และฝึกป้องกันภัยทางอากาศ สนามบินอู่ตะเภา เผย ต่ออายุตามระเบียบทางธุรการ เหตุหมดสัญญา ยันไม่ได้อ้างเรื่องปกป้อง เขตEEC
พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รอง เสธ.ทร. และ โฆษกกองทัพเรือชี้แจงต่อกรณีปรากฏข่าวการนำเอกสารของกองทัพเรือที่เสนอผ่านกรมป่าไม้ มาเผยแพร่ทางสื่อสาธารณะ ว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ เกี่ยวกับที่ตั้งทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีทางทหาร และบัญชีพิกัดเป้าหมายสำคัญทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติต่อการถูกโจมตีเป็นอันดับแรก เมื่อเกิดความไม่สงบ จากการที่มีบุคคลทั่วไป ที่ไม่ได้รับทราบรับรู้ความเข้าใจอย่างครบถ้วน ต่อแนวนโยบายการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี หรือแนวนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชาติแล้วนำมาวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น เป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อการละเมิด หรือการเปิดเผยความลับของทางราชการ เป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ดี กองทัพเรือขอให้มั่นใจได้ว่า กองทัพเรือเป็นหน่วยหนึ่งที่มีบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ระหว่าง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขอดำเนินการใดๆที่ขัดแย้งต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งมีทั้งบนบกและในทะเลที่กองทัพเรือได้ให้ความช่วยเหลือและร่วมมือกับกรมป่าไม้ มาเป็นอย่างดีและต่อเนื่องมาโดยตลอด อาทิ การที่กองทัพเรือได้จัดกำลังพล ยุทโธปกรณ์โดยเฉพาะเรือรบ อากาศยาน อุปกรณ์สื่อสารบนบก ในทะเล ระยะไกล การได้รับการมอบหมายให้เป็นเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ตามกฏหมายว่าด้วยป่าไม้และกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน งบประมาณของกองทัพเรือ เพื่อใช้ในการดำเนินงานอนุรักษ์ป่าไม้
“กองทัพเรือ ขอย้ำให้ทราบว่าที่มีหนังสือไปตามข่าวที่ปรากฎนั้น ก็เพราะที่เคยขอใช้ประโยชน์พื่้นที่ฯไว้เดิมจะหมดอายุ ซึ่งก็เป็นการดำเนินการทางธุรการในการขอใช้ประโยชน์ตามที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล มาแต่อดีต จึงไม่ใช่จะนำมาปกป้อง EEC เพราะต่อให้ไม่มี EEC กองทัพเรือ ก็ต้องมีหน่วยป้องกันสนามบินอู่ตะเภาซึ่งเป็นสนามบินของ ทร. เหมือนกับ ทอ. ที่ต้องมีหน่วยทหารต่อสู้อากาศยานป้องกันสนามบินต่างๆ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทร.ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่านี้มา30 ปี แล้ว ในการซ่อนพรางหน่วย ซ่อนพรางยุทโธปกรณ์ และเป็นพื้นที่ฝึกป้องกันภัยทางอากาศ ให้แก่สนามบินอู่ตะเภา และในส่วนที่ขอเพิ่มนั้น เนื่องจากความจำเป็นด้านนิรภัยการบิน ในการก่อสร้าง รันเวย์ หมายเลข 2 ของสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งสัมพันธ์กับความสูงและเนื้อที่ขอบเขตของเขาโกรกตะแบก ซึ่งตั้งประชิดอยู่บริเวณหัวรันเวย์”พล.ร.ท.ประชาชาติ กล่าว
พล.ร.ท.ประชาชาติ กล่าวอีกว่าด้วยขอเท็จจริงตามเหตุผลที่ได้ชี้แจงมาแล้วข้างต้น กองทัพเรือใคร่ขอให้การเสนอข่าว หรือให้ความคิดเห็นของทุกฝ่าย ที่ปรารถนาดี และโดยเฉพาะประชาชนทั่วไปให้กรุณารับฟังจากผลการพิจารณา ตามกระบวนการของทางราชการ ซึ่งจะประกอบไปด้วยหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง และคณะทำงานที่สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านความมั่นคง และนโยบายของรัฐบาลที่เป็นชั้นความลับ ไม่สมควรนำมาวิพากษ์วิจารณ์กันบนสื่อสาธารณะ จนอาจเกิดการละเมิด หรือส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งนี้ผลการปฏิบัติหน้าที่ของ ทร. ที่ผ่านมาได้ยึดมั่นต่อการดำเนินการเพื่อประเทศชาติและประชาชน ยืนเคียงข้างประชาชนมาเช่นไร ปัจจุบันและอนาคตก็จะเป็นเช่นนั้นให้สมกับอุดมการณ์ของกำลังพล ทร. ยึดถือเสมอมา คือ กองทัพเรือเป็นกองทัพที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ.-สำนักข่าวไทย