ทำเนียบฯ 9 พ.ค.-รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ยืนยันเปิดภาคเรียน 1 ก.ค.นี้แน่นอน คำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียนสูงสุด กำหนดรูปแบบการเรียนการสอนไว้ 3 ช่องทาง ออนไซต์-ออนแอร์-ออนไลน์
นางรักขณา ตัณฑวุฑโฒ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า จากกรณีกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศให้มีการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แต่ยังคงมีความกังวลจากหลายภาคส่วน โดยเฉพาะพ่อแม่ ผู้ปกครองนักเรียน ทั้งเรื่องการเตรียมความพร้อมของสถานศึกษาและความปลอดภัย หากมีการกลับมาเรียนตามปกตินั้น ขอยืนยันว่า กระทรวงฯ คำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียนสูงสุดเป็นอันดับแรก และยืนยันว่าจะเปิดภาคเรียนอย่างแน่นอนในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้
รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า โดยกำหนดรูปแบบการเรียนการสอนไว้ 3 ช่องทาง คือ ออนไซต์ , ออนแอร์ และออนไลน์ สำหรับออนไซต์ คือ ในสถานการณ์ที่ปกติ สามารถเปิดภาคเรียนให้นักเรียนเรียนได้ที่โรงเรียนตามปกติ ซึ่งยังคงต้องยึดมาตรการด้านสาธารณสุข ทั้งการคัดกรอง สวมหน้ากากอนามัย การใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การเว้นระยะห่าง รวมถึงการเพิ่มเวลาพักและลดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น แต่หากในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย และพื้นที่ยังไม่พร้อม จะต้องเรียนผ่านช่องทางออนแอร์ ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้ประสานกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อจัดสรรช่องออกอากาศให้นักเรียน ระดับชั้น ป.1-ม.3 เรียนผ่านโทรทัศน์ และให้นักเรียนระดับชั้น ม.4-ม.6 เรียนผ่านช่องทางออนไลน์ อย่างไรก็ตาม รูปแบบการเรียนนั้น กระทรวงศึกษาฯ ได้ให้อำนาจกับเขตพื้นที่และสถานศึกษา ในการตัดรูปแบบตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ โดยต้องหารือกันระหว่างสถานศึกษา บุคลากร และผู้ปกครอง เพื่อให้การเรียนการสอนสอดคล้องกันมากที่สุด
รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า ก่อนการเปิดภาคเรียน กระทรวงศึกษาฯ ได้เตรียมประเมินผล โดยจะหารือกับ กสทช.ในการจัดสรรความถี่และช่องในการออกอากาศสำหรับการเรียนการสอน รวมถึงระบบที่ใช้สำหรับการเรียนระบบออนไลน์ พร้อมทั้งทำการทดสอบระบบ และรับฟังความคิดเห็นจากผู้ปกครอง และตรวจสอบความพร้อมอย่างรอบด้าน เช่น อุปกรณ์ เครื่องมือ สำหรับการเรียนระบบทางไกล หากครอบครัวใดมีกำลังไม่เพียงพอ กระทรวงศึกษาฯ ยินดีที่สนับสนุนและพร้อมปรับรูปแบบการเรียนการสอน ให้นักเรียนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
“กระทรวงศึกษาธิการจะเริ่มทดสอบระบบต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคมนี้ ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งจะเป็นช่วงของการทดลอง ทั้งนี้หากผู้ปกครองมีปัญหาเรื่องอุปกรณ์ให้แจ้งมายังกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อสนับสนุนสื่อการเรียนการสอน โดยรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการได้ฝากความห่วงใยมายังผู้ปกครองทุกคน ว่าเด็กนักเรียนคือบุตรหลานและอนาคตของชาติ ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายหรือรุนแรงแค่ไหน จะดูแลทุกคนให้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปให้ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งการศึกษาที่ดี ไม่ใช่เรื่องของความรู้ความสามารถเท่านั้น แต่จะต้องสนับสนุนให้มีการเรียนรู้ไปตลอดชีวิต ที่จะเกิดขึ้นได้ โดยความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย” รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว.-สำนักข่าวไทย