จับตาปม 50,000 ล้าน อุ้มการบินไทย

กทม. 8 พ.ค. – แม้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเห็นชอบให้ ก.คลัง ค้ำประกันเงินกู้วงเงิน 50,000 ล้านบาท ให้การบินไทยที่กำลังขาดสภาพคล่องอย่างหนัก แต่การประชุม ครม.ที่ผ่านมา ยังไม่มีการพิจารณาอนุมัติวงเงิน ขณะที่มีเสียงสะท้อนจากนักวิชาการและอดีตผู้บริหารการบินไทย ถึงการบริหารจัดการแผนฟื้นฟู หากมีการอนุมัติวงเงินนี้ ท่ามกลางภาวะอุตสาหกรรมการบินที่ตกต่ำและสถานการณ์โควิด-19



น้ำเสียงย้ำชัดเจนของนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นการให้โอกาสครั้งสุดท้ายสำหรับแผนฟื้นฟูการบินไทย หลังประชุม ครม.เมื่อ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ยังไม่มีการอนุมัติเงินอุ้มการบินไทย หลังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ให้การบินไทย วงเงิน 50,000 ล้านบาท จากที่การบินไทยส่งแผนค้ำประกันเงินกู้มา 70,000 ล้านบาท พร้อมดักคอสหภาพต่างๆ ต้องร่วมมือ


วันนี้ ตัวแทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี พนักงานทุกคนยินดีร่วมมือในแผนฟื้นฟู แต่ขอมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนดำเนินการ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีการฟื้นฟูมาแล้ว 3 ครั้ง แต่พนักงานไม่เคยมีส่วนร่วม ไม่มีโอกาสได้รับรู้ หวั่นเงิน 50,000 ล้านบาท จะจบเหมือนทุกครั้ง แต่หากเข้าไปมีส่วนร่วมแล้ว เชื่อมั่นว่าแผนฟื้นฟูจะไปได้

ประเด็นเงิน 50,000 ล้านอุ้มการบินไทย กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง นักวิชาการคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ เตือนว่าอนาคตของอุตสาหกรรมการบินจากสถานการณ์โควิด-19 บวกกับภาวะขาดทุนสะสมและความไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารองค์กร อาจทำให้การอุ้มการบินไทยด้วยเงินหลายหมื่นล้านเป็นการ “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำครั้งประวัติศาสตร์ด้วยภาษีของประชาชนไทยทุกคน”


ขณะที่อดีตกรรมการบริษัทการบินไทย อย่าง “บรรยง พงษ์พานิช” เห็นด้วยที่รัฐจะให้เงินอุดหนุน 50,000 ล้านบาท แต่มองว่าควรเป็นการให้กู้มากกว่าการค้ำประกัน แม้สุดท้ายต้องจ่ายเหมือนกัน แต่สถานะของผู้ให้กู้กับผู้ค้ำไม่เหมือนกัน แต่ก่อนที่จะให้กู้ รัฐควรจะให้การบินไทยขอเข้าแผนฟื้นฟูตามกระบวนการของกฎหมายล้มละลายก่อน เพราะภายใต้แผน ผู้ให้กู้รายสุดท้ายมีอำนาจต่อรองสูง สามารถล้มเลิกสิทธิประโยชน์อดีตพนักงานและต่อรองกับสหภาพได้ดีกว่า เรียกได้ว่าสามารถผ่าตัดใหญ่ได้ มิฉะนั้นจะกลายเป็น “ตำน้ำพริก โปรยทิ้งบนท้องฟ้า”

ปีที่แล้ว 62 การบินไทยและบริษัทย่อย ผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 12,017 ล้านบาท ยังไม่นับรวมผลกระทบจากโควิด-19 ที่ยังกระหน่ำซัดอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก

ต้องจับตาการประชุม ครม.ครั้งหน้า ว่าจะมีการพิจารณาอนุมัติเงิน 50,000 ล้านบาท ค้ำประกันการบินไทย เพื่อให้สายการบินแห่งชาติอยู่รอดต่อไปได้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น