รวบแก๊งจีนเปิดบริษัทปล่อยเงินกู้คิดดอกเบี้ยโหด โดยผิดกฎหมาย

กรุงเทพฯ 7 พ.ค.- รวบ 6 คนจีน เปิดบริษัท ปล่อยเงินกู้ คิดดอกเบี้ยโหด โดยไม่ขออนุญาต


กำลังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง นำหมายศาลเข้าตรวจค้น บริษัท ไทย ลัคกี้ เทรด จำกัด  เลขที่ 50/15-16 ตั้งอยู่ ใกล้ปากซอยวุฒากาศ 36/2  เขตจอมทอง โดยจดทะเบียนพาณิชย์ ประกอบกิจการเกี่ยวกับนาฬิกา แว่นตา อุปกรณ์ถ่ายภาพบังหน้า  แต่เบื้องหลังกลับดำเนินการปล่อยเงินกู้ผ่านแอพพลิเคชั่น “cash home” โดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการตรวจค้น ยึดคอมพิวเตอร์ 82 เครื่องโทรศัพท์มือถือกว่า  100 เครื่อง สมุดบัญชีและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และ จับกุม นาย ลี เค่อหยู คนจีน และพวกรวม 6 คน  ซึ่งเป็นตัวการสำคัญ แจ้งดำเนินคดี ในข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลังเป็นตามการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กำหนดไว้ ต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท  ส่วนพนักงานในบริษัทดังกล่าวซึ่งเป็นคนไทยประมาณ 73 คน ที่ทำงานในแผนกต่างๆ ในบริษัท ดังกล่าว ทั้งแผนก  บุคคลแผนกทะเบียนลูกค้า แผนกการเงิน แผนกติดตามทวงหนี้ ทางตำรวจจะทำการสอบสวน  เพื่อขยายผลหาบุคคล ที่เกี่ยวข้อง มาดำเนินคดี 


ด้าน พล.ต.ท.สมพงษ์  ชิงดวง  ผบช.สตม.  เปิดเผย ว่า ตำรวจ ตม. ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้เกินกฎหมายกำหนด  และจากเบาะแส พบว่า มีกลุ่มชาวจีนได้ร่วมกันเปิดบริษัทดังกล่าว และมีการปล่อยเงินกู้ โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีการหาลูกค้าผ่านแอพพลิเคชั่น และติดต่อพูดคุยชักชวน ลูกค้าผ่านโทรศัพท์ให้มากู้ยืมเงินกับบริษัท หากลูกค้าตกลงกู้ยืมจะส่งลิ้งค์แอพพลิเคชั่น “cash home” ให้โหลด จากนั้นฝ่ายขายจะส่งเรื่องไปยังฝ่ายตรวจสอบ โดยบริษัทจะทำการวิดีโอคอลหาลูกค้าเพื่อยืนยันตัวตน ด้วยบัตรประชาชน และ บุคคลอ้างอิงอีก 3 คน หากผ่านเกณฑ์จะโอนเงินให้กับผู้กู้ทันที โดยเมื่อได้รับเงิน บริษัทจะหักธรรมเนียมสมัคร 42 เปอร์เซนต์ จากวงเงินกู้ และ ผู้กู้จะเสียดอกเบี้ยร้อยละ 0.05 ต่อวัน โดยจะต้องจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยคืนภายใน 7 วัน หากไม่คืนจะเสียค่าปรับร้อยละ 5 ต่อวัน โดยจะปล่อยกู้ให้แต่ละราย 2,000 ถึง 20,000 บาท เฉลี่ยร้อยละ 18 ต่อปี  ซึ่งถือผิดกฎหมาย เอารัดเอาเปรียบประชาชนโดยอาศัยช่วง ประชาชน ที่ตกงาน และ ได้รับผลกระทบ ความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด- 19  คาดมีประชาชนตกเป็นเหยื่อ ทั่วประเทศ  20,000 คน  และ มีเงินหมุนเวียน ประมาณ 100-200 ล้านบาท  ทั้งนี้ ประชาชนที่เดือดร้อนถูกทวงหนี้ แจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ ตม.ทุกจังหวัด และ สน.บางขุนเทียน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

ศาลให้ประกัน “เอกราช ช่างเหลา” คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย ฐานยักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น กว่า 1,200 ล้านบาท ก่อนได้รับการประกันตัวเพื่อสู้คดีต่อในชั้นศาลอุทธรณ์

สอบปากคำแล้ว 117 ปาก เร่งสางคดีตึก สตง.ถล่ม

รองผบช.น. เผย สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง คดีอาคาร สตง.ถล่มแล้ว 117 ปาก ยังรอสอบบริษัทควบคุมงาน-ออกแบบก่อสร้าง พร้อมนัดสอบ ‘ปฏิวัติ’ CEO กิจการร่วมค้า PKW 21 เม.ย. เร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง

ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดีทุกข้อหาชายซิ่งเก๋งชนกระบะ ระบุน่ารังเกียจ-ไร้วุฒิภาวะ

ผบ.ตร.จวกพฤติกรรมชายซิ่ง BMW ชนกระบะ “น่ารังเกียจ-ไร้วุฒิภาวะ” สั่งดำเนินคดีทุกข้อหา แม้เป็นลูกหลานนักการเมืองดังไม่มีละเว้น

ค้านนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐ

“สมาคมโคเนื้อ” นำมวลชนคัดค้าน “วัวอเมริกา”

สมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย นำเกษตรกรผู้เลี้ยงโคจาก 60 กลุ่มทั่วประเทศ กว่า 100 คน ชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรฯ​ เพื่อยื่นหนังสือถึง​นายกฯ และ​รัฐมนตรี​ 3 กระทรวง​ คัดค้านนโยบายการเปิดนำเข้าเนื้อโคและเครื่องในโคจากสหรัฐ​ หวั่นราคาตกต่ำซ้ำรอย​และ​กระทบ​สุขภาพประชาชน