กกร.ปรับเป้าจีดีพีปีนี้มีโอกาสติดลบ 5%

กรุงเทพฯ 7 พ.ค. – กกร.ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้โตติดลบ 3-5% ส่งออกหดตัว 5-10 วอนรัฐผ่อนคลายตามการร้องขอภาคเอกชนที่ขณะนี้ยังได้ตามที่ขอไป 34 ข้อไม่ครบ


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า กกร.มองว่าจากการที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจน่าจะค่อย ๆ กลับมาดีขึ้นหรือฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด และทิศทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังอาจจะหดตัวน้อยลงจากในช่วงครึ่งปีแรก กกร.จึงปรับประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ใหม่  โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยอาจหดตัวในกรอบ -5.0% ถึง -3.0% ดีกว่าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟประเมินไว้ว่าจะหดตัว 6.7% เนื่องจากภาครัฐและหน่วยงานต่าง ๆ มีมาตรการเยียวยาที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ด้านการส่งออก กกร.คงคาดการณ์ที่ทำไว้เมื่อเดือนเมษายน คาดว่าการส่งออกปีนี้อาจจะหดตัว -10.0% ถึง -5.0% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในกรอบ -1.5% ถึง 0.0% ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานที่ไม่เกิดการระบาดระลอกใหม่ทั้งในไทยและต่างประเทศ และภาครัฐทยอยผ่อนปรนการดำเนินกิจการเพิ่มเติมตามลำดับ

“เศรษฐกิจไทยจะไม่กลับมาฟื้นตัวลักษณะรูปกราฟตัว V เพราะการระบาดของโควิด-19 ยังมี ดังนั้น ภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยคงมองในระยะกลางถึงยาว ทั้งนี้ ขึ้นกับแต่ละอุตสาหกรรม เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ควบคุมได้ธุรกิจท่องเที่ยวจะกลับมา แต่เป็นเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่ปีนี้เศรฐกิจไทยคงไม่โงหัวขึ้น  และยังเกี่ยวข้องกับปัจจัยต่างประเทศด้วยว่าจะดีหรือไม่ และหากวัคซีนสามารถผลิตได้ทันภายในปีนี้ คาดว่าจะทำให้โอกาสที่เศรษฐกิจจะฟื้นปีหน้า เพราะเชื่อว่า New Normal ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว” นายสุพันธุ์ กล่าว 


นายสุพันธุ์ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในไทยและต่างประเทศฉุดเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก บ่งชี้ถึงการหดตัวลงของแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในแทบทุกด้าน มีเพียงการใช้จ่ายของผู้บริโภคในหมวดสินค้าไม่จำเป็นที่ยังขยายตัวได้ ขณะที่การส่งออกที่รวมทองคำค่อนข้างทรงตัว และเมื่อมองต่อไปในช่วงไตรมาสที่ 2 ที่สถานการณ์โควิด-19 ในเดือนเมษายน 2563 รุนแรงขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ เครื่องชี้เศรษฐกิจจะยิ่งสะท้อนภาพการหดตัวที่ลึกขึ้น จากผลกระทบที่ขยายเป็นวงกว้างทั้งในภาคบริการ ภาคการผลิต รวมทั้งการจ้างงานและกำลังซื้อของประชาชน ซึ่งมาตรการของภาครัฐและหน่วยงานต่าง ๆ มีส่วนช่วยบรรเทาผลกระทบได้ระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 ในไทยเริ่มคลี่คลาย จนภาครัฐทยอยผ่อนปรนให้กิจการบางประเภทกลับมาเปิดให้บริการภายใต้แนวปฏิบัติที่ระมัดระวังโดยคงมาตรการ Social Distancing ไว้ อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม การประกอบกิจการของภาคธุรกิจบนภาวะปกติใหม่ (New Normal) ยังเต็มไปด้วยความความท้าทาย ขณะเดียวกันเศรษฐกิจหลักในโลกล้วนได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และหลายประเทศสถานการณ์ยังไม่ยุติ ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในภาวะถดถอยในปี 2563 ซึ่งจะเป็นแรงกดดันอย่างต่อเนื่องต่อการส่งออกและภาคการผลิตในไทย 


สำหรับประเด็นที่ประเทศไทยจะเข้าร่วมในกลุ่ม “ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค” หรือ CPTPP นั้น กกร.มีความเห็นว่าขอให้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยให้มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในเนื้อหา และจุดยืนในการเจรจาครั้งนี้ ว่าประเทศจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ในเรื่องใดบ้าง เพื่อจะได้เสนอข้อมูลให้ภาครัฐได้ทราบจุดยืนที่ชัดเจนมากขึ้น โดย กกร.มีคณะทำงานที่มาจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและ ส.อ.ท.ที่จะประชุมเพื่อหาข้อสรุปในประเด็นด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ CPTPP ภายใน 1 เดือนนับจากนี้ไป

ทั้งนี้ ตามที่ทาง กกร.ได้นำเสนอมาตรการต่าง ๆ ทั้งด้านภาษี การเงิน แรงงาน สาธารณูปโภค ให้แก่หน่วยงานภาครัฐ เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูภาคธุรกิจจากภัย COVID-19 จำนวน 34 มาตรการ ต้องขอบคุณภาครัฐที่เห็นชอบตามข้อเสนอ กกร. แล้ว 11 มาตรการ และอยู่ระหว่างดำเนินการ 11 มาตรการ สำหรับมาตรการที่เหลือ ทาง กกร.จะทำหนังสือถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เร่งรัดดำเนินการต่อไป ด้านการเพื่อช่วยเกษตรของไทย กกร. ยินดีที่จะสนับสนุนให้ภาคเอกชนและผู้บริโภคช่วยซื้อสินค้าเกษตร ได้แก่ ผัก ผลไม้ต่าง ๆ

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการผ่อนคลายให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง ว่า ที่ผ่านมาตามที่ภาครัฐอนุญาตให้เปิดเบื้องต้นแล้วนั้น ขณะนี้ทำให้มีการใช้จ่ายของประชาชนมากขึ้น ประชาชนเริ่มออกนอกบ้านเล็กน้อย และเร็ว ๆ นี้ คาดว่าประมาณกลางเดือนพฤษภาคมนี้รัฐบาลคงมีมาตรการออกมาเพิ่มเติม ก็จะทราบว่าผ่อนคลายกลุ่มธุรกิจใดให้กลับมาเปิดทำธุรกิจได้ เช่น ร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงปานกลางจะเปิดมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ แต่ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนด้วย ส่วนจะมีการเปิดธุรกิจใดรวมถึงห้างสรรพสินค้าหรือไม่นั้น ขึ้นกับการพิจารณาของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่ผ่านมาได้หารือกระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค และวันที่ 8 พฤษภาคม ทางกระทรวงสาธารณสุขเชิญผู้ประกอบการแต่ละสมาคมไปหารือถึงมาตรการต่าง ๆ หรือจะมีอะไรเพิ่มเติมอีกและต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศที่จะนำไปปฏิบัติได้

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้ประกอบการ ทางสมาคมฯ ได้ร่วมทำงานกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลังหลายเรื่อง จัดทำมาตรการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 หลายมาตรการ ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระทางการเงินให้กับผู้ประกอบการและส่วนบุคคล ช่วงหลังภาครัฐออกมาตรการสินเชื่อเพิ่มในส่วนภาระของลูกค้าธนาคาร หากยังมีปัญหาสภาพคล่องติดขัด สามารถเลือกที่จะขอผ่อนปรนไม่ชำระเงินต้นได้ หรือใช้มาตรการออกมาหลังสุด คือ สามารถเลือกได้ว่าจะขอไม่ชำระเงินกู้ทั้งในส่วนของเงินต้นและดอกเบี้ยได้นาน 6 เดือน แต่เวลาที่ผ่านไปทางธนาคารยังคงคิดดอกเบี้ยจากต้นเงินกู้ อย่างไรก็ตาม ขอให้พิจารณาว่าเงินกู้บางส่วนหากสามารถชำระขั้นต่ำได้ก็ควรพิจารณา อีกส่วนคือ มาตรการสินเชื่อใหม่ดอกเบี้ยต่ำวงเงินรวม 500,000 ล้านบาท ขณะนี้ทางธนาคารเริ่มปฏิบัติจริงแล้ว แต่อาจขลุกขลักกับลูกค้าบางรายเกี่ยวกับการที่ข้อกำหนดไม่สอดคล้อง ขณะเดียวกันบางรายหลักประกันน้อยกว่าที่ทางธนาคารต้องการ ดังนั้น สามารถเลือกใช้บริการของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย.ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก