สิงห์บุรี 7 พ.ค. – แม่ยายโร่แจ้งความ สภ.เมืองสิงห์บุรี แค้นลูกเขยกดยกเลิกสิทธิขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ด้านลูกเขยโต้กลับ อ้างข้อมูลที่แจ้งไปไม่ตรงกับความเป็นจริง กลัวมีความผิด
นางฉวีวรรณ คล้ายศรี อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 1 ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เดินทางมายัง สภ.เมืองสิงห์บุรี เพื่อแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กรณีที่ถูกนายกฤษณะ จาดภักดี อายุ 43 ปี ลูกเขย ข่มขู่ ดุด่า พร้อมยกเลิกสิทธิขอรับเงินเยียวยา จำนวน 5,000 บาท จากรัฐบาลของตน
นางฉวีวรรณ กล่าวว่า ตนมีอาชีพค้าขาย อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวร่วมกับสามี ซึ่งมีอาชีพเป็นนักแสดงลิเก ลูกสาว และนายกฤษณะ ที่เป็นลูกเขย ต่อมาเมื่อรัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาช่วยเหลือ รายละ 5,000 บาท นายกฤษณะ ก็เป็นธุระจัดการลงทะเบียน กรอกข้อมูลให้ทุกคนในบ้าน เนื่องจากตนและสามีไม่มีความรู้เรื่องการลงทะเบียน จนทุกคนได้รับเงินเยียวยาช่วยเหลือ รายละ 5,000 บาท ครบหมดทุกคน เหลือเพียงแต่ตนที่ยังไม่ได้รับ อยู่ระหว่างรอการตรวจสอบ ตนจึงวานให้นายกฤษณะช่วยยืนยันข้อมูล และลงทะเบียนยืนยันซ้ำอีกครั้ง โดยสัญญาว่า หากได้รับเงินช่วยเหลือ จะให้ค่าจ้างนายกฤษณะ เป็นจำนวนเงิน 500 บาท ซึ่งนายกฤษณะก็ยินดีให้การช่วยเหลือ
ต่อมาทางองค์การบริหารส่วนตำบลต้นโพธิ์ แจ้งว่า จะให้การช่วยเหลือชาวบ้านใน ต.ต้นโพธิ์ อีก เป็นจำนวนเงินครอบครัวละ 2,000 บาท โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ที่มีรายชื่อเป็นเจ้าบ้าน นายกฤษณะ ซึ่งเป็นลูกเขย ทราบข่าว ก็มาขอให้ตนแบ่งเงินที่จะได้รับการช่วยเหลือจาก อบต.ต้นโพธิ์ แต่ตนไม่ยอม ทำให้นายกฤษณะโมโห ไปดำเนินการยกเลิกสิทธิขอรับเงินเยียวยาจากรัฐบาล จำนวน 5,000 บาท พร้อมทั้งดุด่า ว่าร้ายตน ทำให้ตนต้องมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ด้านนายกฤษณะ กล่าวว่า ตนเป็นผู้กรอกข้อมูลลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาให้ทุกคนในบ้านจริง แต่ข้อมูลบางส่วนคลาดเคลื่อน เมื่อองค์การบริหารส่วนตำบลต้นโพธิ์ แจ้งให้เจ้าบ้านไปลงทะเบียนรับเงินเยียวยาอีก 2,000 บาท ตนจึงบอกกับนางฉวีวรรณ แม่ยายว่า น่าจะแบ่งสรรปันส่วนให้ทุกคนในครอบครัว แต่นางฉวีวรรณ กลับตอบว่า เขาให้เฉพาะเจ้าบ้าน ซึ่งตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง เพราะรายจ่ายในบ้าน ตนและภรรยาก็ช่วยจ่ายอยู่เป็นประจำ เมื่อได้รับเงินช่วยเหลือก็น่าจะแบ่งกัน ส่วนกรณีที่ตนไปแจ้งยกเลิกการขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ของนางฉวีวรรณนั้น เป็นเพราะตนกลัวว่าจะมีความผิด เนื่องจากข้อมูลที่แจ้งไปไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 นางฉวีวรรณก็ค้าขายอยู่ จนทุกวันนี้ นางฉวีวรรณยังสามารถค้าขายได้เป็นปกติ แทบไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เลย. – สำนักข่าวไทย