ทำเนียบฯ 4 พ.ค.- สำนักงานประกันสังคม ระบุ จ่ายเยียวยาลูกจ้างแล้ว 455,717 ราย เร่งรัดจ่ายรายที่เหลือให้เร็วที่สุด ยืนยัน เงินประกันสังคมมีเพียงพอจ่าย ย้ำ เงินกองทุนยังอยู่ครบ มีคณะกรรมการกำกับดูแลการลงทุนอย่างใกล้ชิด
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า มีผู้ประกันตนยื่นขอประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยจำนวน 1,177,841 ราย แต่พบมีการยื่นซ้ำหรือไม่ใช่ผู้ประกันตนที่จะได้รับสิทธิ์ 219,537 ราย ทำให้เหลือผู้มีสิทธิ์เพียง 958,304 ราย ซึ่งจะดำเนินการจ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ยืนยันว่า สำนักงานประกันสังคมเร่งดำเนินการสั่งจ่ายให้กับผู้มีสิทธิ์ 455,717 ราย จำนวน 2,354 ล้านบาท โดยขณะนี้ยังเหลืออีก 207,895 ราย ที่กำลังเร่งรัดจ่ายให้เต็มที่ นอกจากนี้ อยู่ระหว่างรอนายจ้างรับรองสิทธิ์อีก 294,692 ราย ย้ำว่า สำนักงานประกันสังคมมีเงินเพียงพอที่จะจ่าย และเงินทุกบาททุกสตางค์ไม่ได้หายไปไหน ยอมรับว่า ช่วงนี้ การดำเนินการอาจจะช้าบ้าง เพราะปริมาณคู่สายมีจำนวนมากกว่า 11 เท่าตัวของงานปกติ
นายทศพล กล่าวถึงสิทธิในการรักษาพยาบาลโรคโควิด-19 ว่า กองทุนประกันสังคมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เทียบเท่ากับกองทุนข้าราชการอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวล กองทุนประกันสังคมพร้อมดูแล และวางระบบดูแลรักษาผู้ประกันตนทุกคน
นางพิศมัย นิธิไพบูลย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ผู้ประกันตนสามารถยื่นคำขอการขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ทางเว็บไซต์ www.sso.go.th ได้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพบปัญหากรณีนายจ้างยังประกอบกิจการแต่ลูกจ้างยื่นเข้ามา จึงไม่สามารถรับเงินเยียวยาได้ และมีกรณีนายจ้างหยุดงาน แต่ยังจ่ายเงินให้ร้อยละ 75 ให้กับลูกจ้าง ดังนั้น ลูกจ้างก็จะยังไม่ได้รับสิทธิ์ดังกล่าว ส่วนที่มีคำถามระบุว่า ได้รับเงินไม่เท่ากันนั้น การวินิจฉัยจ่ายเงินนั้น เรื่องที่ยื่นเข้ามาก่อน 17 เมษายนที่มีกฎกระทรวง ลูกจ้างที่บริษัทเดียวกัน เงินเดือนเท่ากัน แต่ได้รับเงินไม่เท่ากัน ก็เนื่องจากการวินิจฉัยที่เกิดขึ้นก่อน 17 เมษายน ก็จะได้รับเงินไม่เท่ากันกับผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยหลัง 17 เมษายน แต่สำหรับครั้งต่อๆไป จะได้รับเงินเท่ากันอย่างแน่นอน ส่วนกลุ่มลูกจ้างที่อยู่ระหว่างรอนายจ้างรับรองสิทธิ จะได้รับเงินเมื่อไรนั้น ยืนยันว่า หากมีการรับรองสิทธิจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด
นายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักเงินสมทบ กล่าวว่า เงินกองทุนประกันสังคมยังอยู่ครบถ้วน โดยร้อยละ 82 นำไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ธปท. รัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังค้ำประกันให้ และร้อยละ 18 ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เป็นการลงทุนในทองคำ หน่วยลงทุนที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ จึงขอให้ผู้ประตนมั่นใจในความมั่นคงและเสถียรภาพของกองทุน จึงยืนยันว่า มีความพร้อมที่จะจ่ายสิทธิประโยชน์ให้ทุกกรณี การลงทุนของสำนักงานประกันสังคม มีคณะกรรมการประกันสังคมกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด และมีคณะอนุกรรมการบริหารการลงทุนที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิดูแลใกล้ชิดเช่นกัน ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวล.-สำนักข่าวไทย