กรุงเทพฯ
2 พ.ค.-กลุ่มคิง เพาเวอร์ ตอบ จม.นายกรัฐมนตรี เสนอ
รัฐตั้งกองทุนเพื่อธุรกิจท่องเที่ยว เผย
เตรียมโครงการใหม่เพื่อร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 ของไทย อีกกว่า 700 ล้านบาท ด้านนายกรัฐมนตรีพบปะเอสเอ็มอีและท่องเที่ยว
เตรียมแผนช่วยเหลือ
วันนี้
(2 พ.ค.) กลุ่มคิง เพาเวอร์ ผู้ให้บริการ ร้านค้าปลอดภาษี เผยแพร่เนื้อหาเพื่อตอบจดหมาย พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย
20 ท่าน เพื่อร่วมเป็นทีมประเทศไทยฝ่าวิกฤติ
โควิด-19 โดยระบุในจดหมายว่า
เพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาด ทางบริษัทมีมาตรการสำหรับพนักงานด้วยการจ่ายเงินเดือนพนักงานจำนวน
12,000 คน เต็มจำนวน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 และไม่มีนโยบายเลิกจ้างงาน
แม้ว่าสาขาทั้งหมดของกลุ่มบริษัทฯ จะถูกปิดทำการตามนโยบายความปลอดภัยของรัฐก็ตาม นอกจากนี้ยังมีนโยบาย
การแจกหน้ากากอนามัย และมาตรการคัดกรองโรคให้กับพนักงานอย่างเคร่งครัด
มีการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่พนักงาน
นอกจากนี้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมเป็นต้นมายังมีนโยบายทำงานที่บ้าน (Work From Home) เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อจากการเดินทางอีกด้วย
กลุ่มคิงเพาเวอร์ ได้มีข้อเสนอด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยที่หยุดชะงักจากวิกฤตโควิด-19 จำนวน 7 ข้อได้แก่ ตั้งกองทุนเพื่อธุรกิจการท่องเที่ยว,การจัดคลัสเตอร์
กลุ่มจังหวัดเพื่อการท่องเที่ยว ,จัดเตรียมประกันภัย Covid-19 สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย
,แก้ไขความไม่เพียงพอของมัคคุเทศน์สำหรับนักท่องเที่ยวบางสัญชาติ,การพัฒนาระบบ
E-Visa on
Arrival การตรวจคนเข้าเมืองและการบริหารจัดการสลอตการบิน
,การพัฒนาองค์ความรู้การท่องเที่ยวแนวใหม่ที่สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ (New Normal),.การพัฒนาซูเปอร์ แอปพลิเคชัน
สำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย และสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ
กลุ่มคิงเพาเวอร์ แจ้งด้วยว่า
กลุ่มฯได้ดำเนินโครงการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ 2563-2565 รวมมูลค่ามากกว่า 1,400 ล้านบาท เช่น โครงการด้านเยาวชน, ด้านสาธารณสุข, พัฒนาสังคมในด้านชุมชนและเศรษฐกิจชุมชน โดยในวงเงินส่วนนี้จะมี 3 โครงการใหม่ที่จะดำเนินการ
วงเงิน 719.5 ล้านบาท คือ สนับสนุนทางการแพทย์ และโครงการเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวประเทศไทย
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทวิตเตอร์ว่า เมื่อวันก่อน เริ่มไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก
เพื่อรับฟังสถานการณ์ ความเดือดร้อน และข้อเสนอแนะด้วยตัวเอง
เพิ่มเติมจากที่หน่วยงานของภาครัฐที่ได้ทำงานกันอย่างเต็มที่อยู่ในขณะนี้เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทย
ตามที่เคยกล่าวไว้ว่าวิกฤตโควิด-19
ครั้งนี้ ใหญ่และซับซ้อนมาก
หน้าที่ของเราคือต้องต่อสู้ไปด้วยกันแบบเป็นหนึ่งเดียวทั้งประเทศ เราต้องร่วมมือกัน
ทุกภาคส่วน ทุกกลุ่มธุรกิจ และทุกคน และขอขอบคุณหลายฝ่ายที่ให้ข้อมูลดีดี เช่น นายวิชิต ประกอบโกศล
นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว เป็นต้น
-สำนักข่าวไทย