ปลัด มท. ระบุ การเดินทางข้ามจังหวัด จะต้องผ่านมาตรการคัดกรอง

ทำเนียบฯ 2 พ.ค.- ปลัด มท.ย้ำ ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศต้องยึดคำสั่ง ศบค.เป็นหลักในการดำเนินมาตรการต่างๆ แต่ปรับเพิ่มได้ตามความเสี่ยงในพื้นที่ ระบุ การเดินทางข้ามจังหวัด จะต้องผ่านมาตรการคัดกรอง  ข้อกำหนดงด-ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัดยังมีอยู่  ผู้เดินทางต้องอธิบายเหตุผลและแสดงหลังฐานประกอบ 


นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่า การดำเนินมาตรการต่างๆ  ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศจะต้องยึดกรอบข้อกำหนดของส่วนกลางและคำสั่งต่างๆ ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เป็นหลัก  ส่วนความเข้มงวดต่างๆ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความเสี่ยงของแต่ละพื้นที่  อาจจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันบ้าง  โดยยึดการดูแลประชาชน และป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโรค 

ส่วนการเดินทางกลับต่างจังหวัดของประชาชนจำนวนมาก และแต่ละจังหวัดควรมีมาตรการอย่างไรนั้น นายฉัตรชัย กล่าวว่า เนื่องจากข้อกำหนดให้งด หรือ ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด เว้นแต่คนที่มีความจำเป็น ยังคงมีอยู่  ดังนั้น ผู้ที่เดินทางจะต้องอธิบายเหตุผล และมีหลักฐานประกอบแสดงให้เจ้าหน้าที่ดู  ทุกคนต้องผ่านจุดตรวจคัดกรอง ที่กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศ  


“การเดินทางข้ามจังหวัดจะถูกกักตัว 14 วันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเหตุผลที่ต้องดูเป็นรายกรณีไป   คนที่ผ่านกระบวนการกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดไว้ให้แล้ว จะมีใบรับรอง  ในการเดินทางก็จะต้องแสดงหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ดู ซึ่งกรณีนี้จะไม่มีการกักตัวแน่นอน” นายฉัตรชัย กล่าว

นายฉัตรชัย ยังกล่าวถึง  ประชาชนที่มาจากพื้นที่เสี่ยง เช่น  ภูเก็ต จะมีหลักฐานว่า คนเหล่านี้ได้กักตัวในพื้นที่ภูเก็ตมาแล้ว 1 เดือน จากที่จังหวัดห้ามเข้า-ออกพื้นที่ ซึ่งเสมือนเป็นการกักตัวมาแล้ว และการเดินทาง ผู้ว่าฯ ภูเก็ตต้องแจ้งไปยังจังหวัดปลายทางว่าจะมีประชาชนเดินทางไป และแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานตามจุดต่างๆ  ในการตรวจคัดกรอง  ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่สะดวก ก็ให้เข้าใจและเห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกคนด้วย 

ขณะที่ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาวในเดือนพฤษภาคม คณะรัฐมนตรีมีมติห้ามข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจลาหยุด ยกเว้นกรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน เพื่อไม่ให้มีการเดินทาง ลดการแพร่ระบาดของโรค ดังนั้น ผู้บังคับบัญชาจะต้องพิจารณาอย่างเคร่งครัด  .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเลื่อน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเห็นตรงกันเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน หลังมีเรื่องด่วนกว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญ แต่ไม่ถอนการพิจารณาในสภา บอกการเมืองบิดเป็นกาสิโน ลั่นผู้นำสไตล์ “แพทองธาร” พรรคร่วมต้องเห็นด้วยอย่างเต็มใจ

“คะน้า” แจ้งความเอาผิดไฮโซเก๊ หลอกจ่ายค่าแชมเปญ

“คะน้า” ดาราสาว แจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดีกับอดีตแฟนหนุ่ม ข้อหาฉ้อโกง หลังหลอกให้จ่ายค่าแชมเปญ 98,000 บาท เพื่อเป็นของขวัญ

ตึกสตง.ถล่ม

เข้าสู่วันที่ 12 นำออกได้อีก 4 ร่าง ภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

หลังดีเอสไอรับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ วันนี้ (8 เม.ย.) กรรมการคดีพิเศษได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์และหารือแรงงานที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในคดีกับผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด ขณะที่ กทม. ยืนยันใช้แผนเดิมในการรื้อถอนอาคาร โดยวันนี้จะพยายามตัดยอดส่วนบนให้ได้ 5 เมตร เพื่อหาร่างผู้ติดอยู่ในโซน B และ C