ไทย-อินเดียพร้อมร่วมมือจัดการการระบาดของโควิด-19

ทำเนียบฯ 1 พ.ค.-  ไทยและอินเดียพร้อมร่วมมือจัดการกับการระบาดของโควิด-19   นายกฯ อินเดีย ให้คำมั่นดูแลการขนส่งยา เวชภัณฑ์ให้ไทย 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  วันนี้ (1 พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  หารือทางโทรศัพท์กับนายนเรนทร โมที นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐอินเดีย เกี่ยวกับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ยินดีที่จะเสริมสร้างความร่วมมือ เพื่อรับมือกับการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 โดยประเทศไทยดำเนินมาตรการอย่างเข้มแข็ง เพื่อยับยั้งการระบาด เป็นความร่วมมือกันอย่างจริงจังของทุกภาคส่วน จนส่งผลให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และรัฐบาลยังคงมาตรการดังกล่าวต่อไป พร้อมร่วมมือกับอินเดีย ด้านยาและเวชภัณฑ์ รวมทั้ง ด้านการวิจัยและพัฒนา  ยืนยัน จะดูแลชาวต่างชาติในไทยอย่างดีที่สุด  และขอบคุณทางการอินเดียที่ดูแลคนไทยอย่างดี และช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งกลับประเทศ

นายกรัฐมนตรียังชื่นชมอินเดีย ที่ดำเนินมาตรการอย่างรอบด้าน เด็ดขาด ในการรับมือกับการระบาดครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่า ภายใต้การดูแลของนายกรัฐมนตรีอินเดีย สถานการณ์จะอยู่ภายใต้การควบคุม และชื่นชมบทบาทของอินเดีย ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะด้านยา ซึ่งอินเดียมีศักยภาพสูง นอกจากนี้ เห็นว่า กลไกของอาเซียนจะเป็นช่องทางขยายความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับอินเดียได้ต่อไป  เชื่อมั่นว่า หากทุกประเทศร่วมมือกัน จะสามารถรับมือกับวิกฤติการณ์ครั้งนี้ได้


 โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้อินเดียพิจารณามาตรการล็อกดาวน์ไม่ให้มีผลกระทบต่อการขนส่งยา เวชภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่จำเป็นในการรักษาโรคโควิด-19 เนื่องจากอินเดียเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายยาที่สำคัญ 

ขณะที่ นายกรัฐมนตรีอินเดีย ชื่นชมบทบาทของรัฐบาลไทย ที่สามารถควบคุมตัวเลขผู้รับเชื้อได้ในระดับที่ส่งผลดี  และขอให้ไทยร่วมมือกับอินเดีย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 เพราะมีผลกระทบต่อด้านสุขภาพ และเศรษฐกิจอย่างมาก หวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว และให้คำมั่นว่า พร้อมร่วมมือดูแลการส่งยาให้ไทย และ 2 ประเทศยืนยันจะร่วมมืออย่างแน่นแฟ้น เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจร่วมกัน ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นภายหลังการระบาดของโควิด -19 นอกจากนี้ ยังขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลคนอินเดียที่ติดค้างอยู่ในประเทศไทย  .- สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย