BIG STORY : ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พิจารณาคลายล็อกดาวน์

กทม. 27 เม.ย. – ที่ประชุม ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ได้ประเมินผลการปฏิบัติงานตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ใช้มาครบ 1 เดือน รวมถึงได้พิจารณาแนวทางการผ่อนคลายมาตรการผ่อนปรน 


สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้รายงานผลสัมฤทธิ์การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ประกาศใช้ครบ 1 เดือน การดำเนินงานถือว่ามีประสิทธิภาพ ที่สำคัญตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลง จึงเห็นควรให้ขยายเวลาการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม แต่คง 4 มาตรการเดิมไว้ คือ 


1.คุมเข้มการเข้า-ออกราชอาณาจักร

2.คงเคอร์ฟิว เวลา 22.00-04.00 น. 

3.งดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด 


4.งดกิจกรรมการคนหมู่มาก ทั้งการประชุม อบรม สัมมนา ประชุมใหญ่ต่าง ๆ

คำถามที่ตามมาเมื่อตัวเลขผู้ป่วยลดลง มาตรการการผ่อนปรนจะเป็นไปในทิศทางใด ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้คาดการณ์สถานการณ์ช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคมไว้ 3 กรณี คือ หากควบคุมได้ดี จะเกิดผู้ป่วยใหม่ 15-30 รายต่อวัน รวม 3 เดือน 1,889 ราย กรณีควบคุมได้มีความเสี่ยงต่ำ เช่น เปิดธุรกิจที่บางประเภท อาจเกิดผู้ป่วยใหม่ 40-70 รายต่อวัน รวม 3 เดือน 4,661 ราย และกรณีควบคุมได้ยาก เช่น เปิดสนามมวยและสถานบันเทิง อาจพบผู้ป่วยใหม่ 500- 2,000 รายต่อวัน 3 เดือน จะมีผู้ป่วยใหม่สูงถึง 46,596 ราย

ขณะเดียวกันมีข้อเสนอการผ่อนปรนที่มาจากฝั่งเอกชนผ่านสภาพัฒน์ ให้แบ่งระดับความเสี่ยงเป็นกลุ่มสี คือ 

สีขาว เป็นกิจการที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ร้านขนาดเล็ก ร้านค้าออนไลน์ หาบเร่ แผงลอย 

สีเขียว สถานประกอบการขนาดเล็ก มีพื้นที่ไม่มาก กำหนดมาตรการควบคุม สวนสาธารณะ ลานกีฬากลางแจ้ง

สีเหลือง เป็นกิจการที่มีพื้นที่ปิด มีคนใช้บริการจำนวนมากอย่างตลาดสด ห้างสรรพสินค้า ร้านตัดผม คลินิกเสริมความงาม สระว่ายน้ำ สำหรับกิจการ

สีแดง เป็นกิจการทีมีความเสี่ยงสูง เช่น สนามมวย สถานบันเทิง

ข้อเสนอเหล่านี้ สมช.และสภาพัฒน์ ได้หารือร่วมกันอีกครั้ง และมีรายงานว่าอาจจะเปิดตลาดนัด ร้านตัดผม ร้านอาหารที่ต้องไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้านตัดแต่งขนสัตว์ สวนสาธารณะ การจัดงานศพ สนามกีฬากลางแจ้งจำพวกกอล์ฟ และเทนนิส คาดว่าเป็นวันที่ 3 พฤษภาคม เป็นต้นไป แต่ยังไม่เปิดห้างสรรพสินค้า เพราะต้องประเมินอีกครั้ง 17 พฤษภาคม 

ศบค.เน้นย้ำแนวทางการผ่อนปรนว่า ต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านสาธารณสุข และคงแนวทางที่ปฏิบัติมาแล้ว ไม่ว่าทำงานที่บ้าน ร้อยละ 50 คงกิจกรรมที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็น Social Distancing วัดอุณหภูมิ ใช้เจลแอลกอฮอล์ นำเทคโนโลยีติดตามตัวมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ที่สำคัญต้องประเมินผล หากคุมได้ดี การผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ จะเดินหน้าต่อ หากคุมไม่ได้ จะระงับมาตรการต่าง ๆ ทันที. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

คุมตัวโจรมาเลย์ชิงทอง 138 บาท ทำแผนฯ

ตำรวจคุมตัวโจรมาเลย์ชิงทอง 138 บาท ในพื้นที่หาดใหญ่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พบประวัติสุดแสบ ปล้นฆ่าที่มาเลเซียตั้งแต่อายุ 17 ยังหนีมาก่อเหตุซ้ำที่ไทยอีกหลายครั้ง

นายกฯ ขึ้น ฮ. ดูสภาพจราจรเดินทางสงกรานต์

นายกฯ ขึ้น ฮ. บินดูสภาพจราจร ถ.มิตรภาพ-เส้นทางขึ้นเหนือ-ลงใต้ เตรียมพร้อมประชาชนเดินทางกลับบ้านสงกรานต์ พร้อมตรวจคืบหน้าก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 มั่นใจเปิดใช้เต็มรูปแบบ ปลายปี 68 ขณะ “สุริยะ” ยันปลอดภัย ไม่มีของตกหล่น สั่งหยุดก่อสร้างตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้แทน สตง.แจงยิบสร้างตึก สตง. ยันเหล็ก-ปูนมีมาตรฐาน

กมธ.ติดตามงบฯ ถกโครงการสร้างตึก สตง.แห่งใหม่ ด้าน ‘ผู้แทน สตง.’ แจงยิบปรับสัญญาถึง 14 มิ.ย.นี้ ทั้งที่การสร้างต้องเสร็จ 31 ธ.ค.66 ยัน เหล็ก-ปูนมีมาตรฐาน ลั่นเดินหน้าสร้างต่อ แต่ปรับรูปแบบไม่สูง-ทับที่ตึกเก่า ใช้งบที่เหลือสร้าง