กรุงเทพฯ 27 เม.ย. – ร้านค้าก๊าซหุงต้มยอดหด ตามร้านอาหารปิดตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แถมเจอปัญหาแรงงานขาดแคลน
นายสุรศักดิ์ อยู่คงพัน นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบให้ภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจโรงแรม ร้านค้าอาหาร ต้องหยุดกิจการลงตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2563 ที่กำหนดไว้ ทำให้ยอดขายแอลพีจีทั้งภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรมภาพรวมขณะนี้ลดลงเฉลี่ยร้อยละ 30-50 ภาพรวมทั้งปี 2563 ก็ต้องดูสถานการณ์จะยืดเยื้อไปมากน้อยเพียงใด จากเดิมมีอัตราเฉลี่ยขยายตัวร้อยละ 3-5 ต่อปี
สำหรับการขายปลีกแอลพีจีได้มีการปรับลดตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่ให้ปรับลดราคา 3 บาท/กก. เป็นเวลา 3 เดือน (ตั้งแต่ 24 มี.ค.-24 มิ.ย.) โดยในส่วนถังขนาด 15 กก.ราคาใหม่จะอยู่ที่ 318 บาท/ถัง ทางร้านค้าได้ติดป้ายแนะนำราคาอยู่แล้ว ซึ่งยังไม่รวมค่าขนส่งที่ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับระยะทางภาพรวมที่จะเก็บเฉลี่ยไม่เกิน 20 บาท/ถัง (15 กก.) และบางที่หากต้องขนขึ้นอาคารสูงก็จะบวกอีก 5-10 บาทขึ้นอยู่กับการตกลงอีกด้วย หากประชาชนต้องการแอลพีจีถูกจริง ๆ มาซื้อถึงร้านบางร้านจะลดราคามากกว่าราคาแนะนำ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้มาซื้อที่ร้าน เพราะมีปัญหาขาดแคลนแรงงานที่หายาก เนื่องจากเป็นงานหนักไม่มีใครต้องการทำงานนี้ต้องอาศัยแรงงานต่างด้าวยิ่งช่วงการระบาดโควิด-19 แรงงานก็หวาดกลัวการติดเชื้อบางร้านต้องแก้ไขปัญหาด้วยการจ้างเงินพิเศษอีกด้วย. – สำนักข่าวไทย
