21 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมืออิทธิพลพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนเช้าพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) ส่งผลไทยตอนบนฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่
น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ พายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าชายฝั่งเวียดนามเช้าวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณลุ่มน้ำโขงตอนบนของลาวและเวียดนาม ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักต่อเนื่อง และเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมแรงหลายพื้นที่
60 จังหวัดทั่วประเทศ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูง 2–4 เมตร อาจเกิน 4 เมตรในบางพื้นที่ เรือเล็กงดออกจากฝั่งเด็ดขาด ตั้งแต่วันที่ 21–25 กรกฎาคมนี้ พร้อมยังจัดตั้งศูนย์ติดตามพิเศษ หรือ War Room ตั้งแต่วันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์แบบเรียลไทม์ และสื่อสารเตือนภัยต่อเนื่อง ตลอด
ช่วยเรือตกปลาเครื่องเสียกลางทะเล
เย็นวานนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต นำเรือตรวจการณ์ 601 ออกไปช่วยเหลือ เรือเพลาใบจักยาวออกไปตกปลาใกล้กับเกาะไม้ท่อนทางทิศตะวันตก เครื่องยนต์เสีย พบคนบนเรือตกปลา 5 คน กลับเข้าฝั่งปลอดภัย พร้อมกันนี้ได้ประสาน ลากเรือลำที่เกิดเหตุและนำนายท้ายเรือเข้าฝั่งโดยปลอดภัยเช่นกัน ขณะที่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย มีป้ายโฆษณาหักโค่น รวมถึงต้นไม้ใหญ่หักโค่นหลายจุด อาทิ ภายในวัดเก็ตโฮ่ มีต้นไม้ใหญ่ล้มทับรถยนต์เสียหาย และวัวได้รับบาดเจ็บ
ลมกระโชกแรงต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับบ้านเรือน

จังหวัดพังงา ฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ทำให้ต้นไม้หักโค่นล้มทับถนนปิดเส้นทางจราจรบางพื้นที่ รวมถึงล้มทับบ้านเรือนพี่น้องประชาชนและหน่วยงานราชการ บางบ้านถูกกระแสลมที่กระโชกแรงประมาณ 20 นาที พัดเอากระเบื้องมุงหลังคาเสียหาย นายกเทศมนตรีเมืองพังงาจึงรีบนำทีมบริหาร สมาชิกสภาและเจ้าหน้าที่ รวมถึงจิตอาสาลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือทันที ขณะที่พื้นที่ ม.4 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา มีบ้านคุณยายถูกกระแสมลมกระโชกแรงพัดหลังคาบ้านหายไปทั้งหมด คุณยายยืนตากฝนตกใจร้องไห้ บอกว่าไม่เคยเจอลมพัดแรงแบบนี้มาก่อนเลย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้าช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
เตรียมรับมือพายุวิภา
ขึ้นเหนือ จังหวัดน่าน คาดการณ์ว่า จะได้รับผลกระทบโดยตรง พร้อมกับพะเยา เชียงราย ลำปาง เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ได้จัดหาซื้อกระสอบทรายมาวางปิดกั้นบริเวณหน้าอาคารร้านค้า หน้าบ้าน
ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองน่าน ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดน่าน สำรวจแนวพนังกั้นแม่น้ำน่าน หลังพบจุดชำรุดบริเวณใกล้ต้นโพธิ์หน้าโรงเรียนสตรีศรีน่าน เขตติดต่อบ้านดอนศรีเสริม-บ้านสวนตาลล่าง ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดน้ำทะลักเข้าชุมชนหากระดับน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูง จึงได้สั่งเทคอนกรีตอุดรอยรั่วเร่งด่วน และเตรียมวางถุง BigBag พร้อมทั้งระดมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแนวพนังป้องกันน้ำท่วมตลอดเส้น หากพบปัญหาสั่งให้แก้ไขทันที เพื่อป้องกันผลกระทบน้ำหลากเข้าสู่เขตเมือง
เขื่อนเจ้าพระยาเร่งพร่องน้ำ เตือนท้ายเขื่อนเฝ้าระวัง
ด้านกรมชลประทานคาดประมาณวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 จะมีน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ ประมาณ 1,400-1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงต้องเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 700-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไม่ให้กระทบกับพื้นที่เพาะปลูกด้านเหนือเขื่อน แต่พื้นที่ท้ายเขื่อนในที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) จะมีระดับสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 20-80 เซนติเมตร จึงขอให้ประชาชน เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย