กรุงเทพฯ 26 เม.ย. – กสิกรไทยคาดเงินบาทสัปดาห์หน้า 32.30-32.70 บาท/ดอลลาร์ หุ้นไทยแนวรับ 1,235 จุด และ 1,200 จุด จับตาเฟด ปลดล็อกดาวน์
เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในช่วงแรก ก่อนลดช่วงบวกลงปลายสัปดาห์ โดยวันศุกร์ที่ 24 เมษายน เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.43 เทียบกับระดับ 32.58 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า
สำหรับสัปดาห์หน้า (27 เม.ย.-1 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวเงินบาทที่ 32.30-32.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนมีนาคมของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตลอดจนผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตเดือนเมษายน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้/การใช้จ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก Core PCE Price Index เดือนมีนาคม ดัชนีราคาบ้านเดือนกุมภาพันธ์ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2563 (Preliminary) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอประเมินสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 แผนการเปิดเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ และดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนเมษายนของจีนด้วยเช่นกัน
ด้านหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวน แต่ยังคงปิดสูงกว่าสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,258.78 จุด เพิ่มขึ้น 1.58% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 68,152.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.55% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 3.35% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 248.44 จุด
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,235 และ 1,200 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,285 และ 1,300 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด และผลประกอบการไตรมาส 1/63 ของบริษัทจดทะเบียนไทย การพิจารณามาตรการควบคุมโควิด-19 ในประเทศ รวมถึงความเคลื่อนไหวของตลาดน้ำมัน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/63 รวมถึงรายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนมีนาคม ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ การประชุมของบีโอเจ และอีซีบี ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/63 ของยูโรโซน และดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนเมษายนของจีน .-สำนักข่าวไทย