สุพรรณบุรี 25 เม.ย.- ฌาปนกิจแล้ว “คุณตาบุญส่ง” อสม.เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ด้านนายกรัฐมนตรีโพสต์ FB แสดงความเสียใจ ถือเป็นการสูญเสียบุคลากรที่มีค่าของชาติอีกคน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่าน Facebook แสดงความอาลัยต่อการจากไปของคุณตาบุญส่ง มะนาวหวาน อสม.วัย 72 ปี ของอำเภอเดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะกำลังขี่จักรยานยนต์นำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือไปแจกจ่ายให้ชาวบ้าน ถือเป็นการสูญเสียบุคลากรที่สำคัญของชาติเพราะผู้เสียชีวิตเป็น อสม.มาตั้งแต่ปี 2529 รวมทั้งสิ้น 34 ปี และทราบมาว่าที่ผ่านมาทำหน้าที่อย่างเสียสละ เป็นคนดีของชุมชนและประเทศชาติที่ควรยกย่อง ซึ่งถือว่าเป็นการเสียชีวิตในหน้าที่ โดยภาครัฐจะดูแลครอบครัวอย่างดีที่สุด และนายกฯ ได้ขอบคุณ อสม. ที่มีส่วนช่วยประเทศฝ่าฟันวิกฤติ “โควิด-19”
สำหรับ “คุณตาบุญส่ง” เสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันที่ 22 เมษายน ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปแจกหน้ากากและเจลให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ต.ยางนอน อ.เดิมบางนางบวช ซึ่งออกจากบ้านไปเพียงไม่นาน ถูกรถกระบะส่งน้ำแข็งเฉี่ยวชนเสียชีวิตคาที่ อีกทั้งพบว่าขณะเสียชีวิตยังพบขวดแอลกอฮอล์เปื้อนเลือดตกอยู่ใกล้ตัว ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่จนวาระสุดท้ายของชีวิต
นอกจากนี้ ครอบครัวผู้เสียชีวิตบอกว่า “คุณตาบุญส่ง” มักจะบอกกับลูกหลานเสมอว่า ภาคภูมิใจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ อสม. เพราะเป็นการช่วยเหลือแพทย์และพยาบาล ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง แม้จะมีรายได้เพียงน้อยนิด
สำหรับพิธีสวดพระอภิธรรม “คุณตาบุญส่ง มะนาวหวาน” สิ้นสุดลงแล้วเมื่อคืนวานนี้ และเพิ่งมีพิธีฌาปนกิจไปเมื่อเวลา 15.00 น. ที่วัดในหมู่บ้าน ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว
เยียวยา อสม.เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ มากกว่า 400,000 บาท
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า อสม.ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ช่วง “โควิด-19” จะได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 10,000 บาท และจากมูลนิธิ อสม.อีก 5,000 บาท และเงินเยียวยาตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติอีก 400,000 บาท ซึ่งเป็นอัตราเดียวกันกับบุคลากรทางการแพทย์ทั่วไป พร้อมยอมรับว่า ขณะนี้มี อสม.เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์ “โควิด-19” 3 คน และมีผู้ติดเชื้อ “โควิด-19” อีก 2 คน แต่รักษาหายแล้ว
ทั้งนี้ ล่าสุดทราบว่ากระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอ ครม.พิจารณาเพิ่มเงินเยียวยาในอัตรา 2 เท่าในอนาคต.-สำนักข่าวไทย
