เชียงใหม่ 25 เม.ย.- รู้ตัวแล้ว! ชายหัวเกรียน สะพายปืนขู่ที่เชียงใหม่ เป็นตำรวจจริง รอง ผบช.ภ.5 เต้นสั่งสอบ
กรณีมีสาวโพสต์คลิป ชายหัวเกรียน ขับเก๋งสะพายปืนอ้างเป็นตำรวจ ลงมายืนข้างรถยนต์ที่แฟนหนุ่มขับและมีปากเสียงกัน คาดขับรถกระทบกระทั่งกัน ขณะที่โซเชียลจี้ให้เร่งตามตัวลงโทษตามกฎหมายและตรวจสอบว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Noo Namwan” โพสต์คลิปภาพเหตุการณ์ที่มีชายคนหนุ่มคนหนึ่งตัดผมเกรียนพร้อมสะพายอาวุธปืนยืนอยู่ข้างกระจกรถยนต์ฝั่งคนขับที่มีผู้ชายที่คาดว่าเป็นแฟนหนุ่มของผู้โพสต์ขับอยู่และมีปากเสียงกัน
ชายคนที่สะพายปืนอ้างว่าเป็นตำรวจ หลังจากโต้เถียงกันสักครู่หนึ่ง ผู้ชายคนที่สะพายปืนอยู่ได้เดินกลับไปขึ้นรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า เชียงใหม่ ที่จอดอยู่ด้านหน้าแล้วขับออกไป
ตามคลิปคาดว่าเหตุน่าจะเกิดบนถนนเลียบทางรถไฟเชียงใหม่ และสาเหตุอาจจะมาจากขับรถกระทบกระทั่งกัน โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ได้บรรยายว่า “ คืออะไรคะใครรู้ช่วยตอบทีห้อยปืนลงมาขู่แล้วบอกว่าเป็นตำรวจถามเราหาเรื่องหรอ งง”
โพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นและแชร์ต่อจำนวนมาก ส่วนใหญ่ตำหนิพฤติกรรมของผู้ชายที่สะพายปืน และอยากให้มีการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายเรื่องการพกพาอาวุธปืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยากให้มีการตรวจสอบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่
ค่ำวานนี้ พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภาค 5 เปิดเผยว่า หลังจากรับทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ได้ให้ตำรวจภาค 5 ตรวจเช็กทันทีว่า เป็นตำรวจจริงหรือไม่อย่างไร และให้เร่งติดตามตัวมาดำเนินการ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นตำรวจจริงยศ ด.ต. ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป) สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้สั่งการให้ตำรวจคนดังกล่าวและผู้บังคับบัญชาของตำรวจผู้นี้ทำรายงานชี้แจงมา และให้มีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดทั้งทางวินัยและทางกฎหมาย
“เป็นตำรวจและอยู่ในนอกเครื่องแบบมาพกปืนหราแบบนี้ ไม่ได้ ยิ่งลงไปมีปากเสียงกับประชาชนยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย ส่วนสาเหตุนั้น รอให้มีการทำรายงานชี้แจงมาและสอบปากคำก่อน รวมทั้งขอให้ผู้เสียหายหรือคู่กรณีมาให้รายละเอียดกับทางพนักงานสอบสวนด้วย เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น” พล.ต.ต.บัณฑิต กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่ามูลเหตุเกิดจากการขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนแล้วลงมามีปากเสียงกัน โดย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เรียกตัวตำรวจพร้อมอาวุธปืนที่ปรากฏตามคลิปวิดีโอมาพบเพื่อสอบสวนในเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย หากพบว่าตำรวจกระทำความผิด หรือประพฤติปฏิบัติตนไม่สมควร กระทำอันเกินกว่าเหตุให้พิจารณาโทษทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย