จับเพิ่ม 8 ราย ขายหน้ากากอนามัย-แอลกอฮอล์แพง

นนทบุรี 23 เม.ย. – พาณิชย์จับเพิ่มอีก 8 ราย ขายหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์แพงเกินจริง กลุ่มร้านค้าออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊กและแอปพลิเคชั่นไลน์ 



นายสุพพัต  อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์และศูนย์ปฏิบัติการด้านการควบคุมสินค้า (ศปส) ฝ่ายสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ ว่า วันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ เพิ่มอีก 8 ราย แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 2 ราย โดยทำการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก 1 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยบรรจุกล่อง ละ 50 ชิ้น ราคากล่องละ 575 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 11.50 บาท) จำนวน 119 กล่อง รวม 5,950 ชิ้น และร้านค้าจำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ อีก 1 ราย จำหน่ายหน้ากากอนามัยบรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ราคากล่องละ 700 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ   14 บาท) รวม 30,000 ชิ้น แจ้งข้อหากระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงกว่าราคาที่กำหนด และราคาสูงเกินสมควร ตามมาตรา 25 (1) และมาตรา 29


ส่วนต่างจังหวัด 6 ราย แยกเป็นการกระทำความผิด ดังนี้ กระทำความผิดตามมาตรา 28 ข้อหาจำหน่ายเจลแอลกอฮอล์โดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย จำนวน 1 ราย เป็นร้านค้าแผงลอย จังหวัดนครสวรรค์ กระทำความผิดตามมาตรา  29 ข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาสูงเกินสมควร โดยเจ้าหน้าที่ทำการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก จำนวน 4 ราย ได้แก่ จังหวัดชลบุรี 1 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัย บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 590 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 11.80 บาท) จังหวัดนครสวรรค์ 1 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 650 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 13 บาท) และจังหวัดพิษณุโลก 2 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัย บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 680 – 690 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 13.60 – 13.80 บาท) รวม 150 ชิ้น นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ทำการล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยเป็นร้านค้าทั่วไป ในจังหวัดพิษณุโลกอีก 1 ราย พร้อมของกลางเป็นหน้ากากอนามัยบรรจุกล่อง 50 ชิ้น ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือและแอลกอฮอล์ เพิ่มถึง 382 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 172 ราย และต่างจังหวัด 210 ราย

สำหรับสถานการณ์การจำหน่ายไข่ไก่ขณะนี้  โดยรวมความต้องการซื้อไข่ไก่ลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติประชาชนซื้อเท่าที่พอเพียงต่อการบริโภค อีกทั้งมีปริมาณผลผลิตไข่ไก่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น สามารถสั่งซื้อและส่งสินค้าได้ตามปกติ ทั้งนี้ จากการติดตามตรวจสอบและจับกุมยังคงพบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ในความผิดจำหน่ายไข่ไก่โดยไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย ตามมาตรา 28 เพิ่ม 1 ราย ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้ยอดรวมการจับกุมเพิ่มเป็น 28 ราย (สถิติจับกุม ณ วันที่ 21 เม.ย.63)

 สำหรับโทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้ง  มาตรา 26 ข้อหา เป็นผู้ผลิตไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย มาตรา 28 ข้อหา          ไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทและมาตรา 29 ข้อหาขายแพงเกินสมควร  มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ทั้งนี้ ในสถานการณ์การระบาดของโควิด – 19 อยากย้ำเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมกักตุนและขายสินค้าแพงเกินจริง  โดยเฉพาะสินค้าหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ รวมถึงสินค้าที่ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุมเช่น ไข่ไก่ สินค้าอุปโภค บริโภคต่าง ๆ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในสถานการณ์ดังกล่าว  หากพบการกระทำความผิดกระทรวงพาณิชย์จะดำเนินคดีตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 เพราะถือเป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน หากพบมีการกักตุนสินค้าและขายสินค้าแพงเกินจริง สามารถร้องเรียนได้ทันทีที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า