ทำเนียบฯ 23 เม.ย.- โฆษก ศบค. ระบุมีแนวโน้มต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่อาจมีผ่อนปรน ขอให้รอ มติ ครม. ยอมรับปิดด่านสะเดา เหตุเจ้าหน้าที่ ตม.ติดโควิด-19
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ยอมรับ มีเจ้าหน้าที่ ตม.ด่านสะเดา จ.สงขลา ติดเชื้อโควิด-19 จริง ทำให้ต้องกักตัว 49 คน ที่สัมผัสใกล้ชิดและเสี่ยงสูง และมีกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำอีก 93 คน รวมทั้งหมด 142 คนที่ต้องกักกัน ขณะนี้ อยู่ในกระบวนการหาต้นเหตุและสอบสวนโรค โดยทางศูนย์ควบคุมโรคกำลังร่วมมือกับทางจังหวัด เบื้องต้น ปิดด่านสะเดาไปก่อน 7 วัน และต้องให้มั่นใจก่อน จึงค่อยเปิดด่านอีกครั้ง
“ไม่โทษว่าเป็นความผิดใคร แต่ต้องหาต้นทาง และหาแนวทางป้องกัน และควบคุมไม่ให้มีการแพร่กระจายของโรค ซึ่งทั้งไทยและมาเลเซียพยายามควบคุมโรคทั้ง 2 ฝั่ง แต่เมื่อมีการติดเชื้อ และทำให้คนทำงานหายไปจำนวนมาก ผู้บัญชาการทหารสูงสุดจึงต้องสั่งปิดด่านสะเดาไปก่อน แล้วใช้ด่านปาดังเบซาร์ จ.สงขลา แทน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุดชี้แจง วานนี้ (22 เม.ย.) ว่า มีคนไทยเข้ามาทางด่านภาคใต้แล้ว 1,600 คน ขณะนี้ยังดูแลได้ดี และยังไม่มีใครแสดงอาการ และทราบว่ายังมีคนไทยอีกหลายพันคน ที่ลงทะเบียนต้องการเข้ามาในไทย แต่ต้องขอความร่วมมือว่า ทุกคนต้องมีใบรับรองแพทย์ และลงทะเบียนก่อน เพื่อให้รัฐจัดหาสถานที่กักกันของรัฐ ซึ่งทั้ง 3 ด่านใหญ่ในภาคใต้ รองรับได้เพียง 350 คน ต่อวัน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะที่ กระทรวงต่างประเทศแจ้งว่า มีอีกหลายคนที่พักอยู่ในมาเลเซีย หากต้องการความช่วยเหลือ ก็ขอให้แจ้งเข้ามาทางสถานทูต โดยสถานทูตอาจจะส่งของยังชีพเพื่อให้สามารถอยู่ได้ ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในประเทศมาเลเซียก็สามารถควบคุมได้ในระดับเลข 2 หลักเช่นเดียวกับไทย ส่วนการต้องอยู่อาศัยในช่วงนี้แบบผิดกฎหมายก่อนนั้น สถานทูตก็ได้คุยกับทางการมาเลเซีย ยืนยันว่าพยายามช่วยอยู่ อย่าตกใจ หากไม่สบายใจก็โทรติดต่อเข้าไปที่สถานกงสุลได้
ต่อข้อถามถึง การปรับลดด่านเคอร์ฟิว จะมีผลต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นอกจากกระทรวงสาธารณสุขจะมี Active Case Finding แล้ว ตำรวจก็มีวิธีการเชิงรุกเช่นกัน โดยเป็นสายตรวจที่จะออกไปในพื้นที่ ตามชุมชน และตรงเข้าสู่บ้าน ซึ่งคนที่เป็นเพื่อนบ้านในหมู่บ้านนั้นๆ จะเป็นผู้แจ้งเบาะแสได้ ตำรวจยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการเข้าไปจับกุม เบื้องต้นหากพบการกระทำผิด ก็จะพยายามแจ้งเตือน แต่หากเป็นกรณีเล่นการพนัน ก็ต้องจับกุมดำเนินคดีทันที เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เพราะหลายกรณีที่ติดเชื้อเกิดจากการเล่นการพนัน จึงหวังว่าการกระทำผิดจะลดน้อยลง
เมื่อถามว่า ศบค.มีแนวทางการรับมือการแพร่ระบาดระลอกใหม่อย่างไร หลังประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้บริการรถสาธารณะ นพ.ทวีศิลป์ ยอมรับว่า น่าเป็นห่วง เพราะหลายคนหลังจากเห็นตัวเลขแล้วก็เบาใจ ว่าน่าจะผ่อนปรนได้ ประกอบกับต้องทำงานหาเลี้ยงชีพ แต่ตนยังต้องการย้ำว่า การออกไปข้างนอกมีความสุ่มเสี่ยงแน่นอน ดังนั้น ทุกคนต้องปฏิบัติเช่นเดิมคือ สวมหน้ากากอนามัย กินร้อน ช้อนตัวเอง ก็จะป้องกันได้ กิจกรรมใดไม่จำเป็นก็ไม่ต้องออกไป จึงฝากให้ทุกคนดูแลตัวเอง ขณะที่ผู้ประกอบการรถขนส่งก็ต้องยึดแนวทางการโดยสารที่ไม่ให้แออัด ห้ามพูดคุยกันบนรถสาธารณะ เพราะเมื่อใดที่พูดคุยกัน ละอองน้ำลายก็จะออกมาด้วย แม้จะสวมหน้ากากผ้า ฝอยละอองน้ำลายก็ยังสามารถเล็ดรอดออกมาได้
เมื่อถามว่า ตอนนี้การเดินทางไปมาระหว่างจังหวัดได้หรือไม่ และต้องกักตัวหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ต้องศึกษาจากพื้นที่จังหวัดเหล่านั้น เพราะ ศบค.มอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้สถิติในจังหวัด เพื่อออกกฎเกณฑ์ของแต่ละจังหวัดที่แตกต่างกันออกไป ทุกคนต้องเข้าใจและปฏิบัติตามที่จังหวัดนั้นๆกำหนดไว้ แต่ย้ำว่า ห้ามเดินทางช่วงเคอร์ฟิวทั่วประเทศ
สำหรับกรณีที่มีนำเสนอข่าวว่า วันที่ 1 พฤษภาคม จะปลดล็อก 32 จังหวัดก่อนนั้น นพ.ทวีศิลป์ ยืนยันว่า ยังไม่มีมตินี้ออกมาจาก ศบค.และครม. ยังเป็นในรูปแบบข้อเสนอ ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่า ต้องศึกษาอย่างชัดเจนก่อน และต้องอนุมัติผ่าน ครม.ก่อน
“ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประกาศแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่ามีแนวโน้มต้องยืดระยะเวลาการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แน่นอน แต่มีการผ่อนปรนบ้าง สุดท้ายต้องรอมติ ครม.ก่อน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว .- สำนักข่าวไทย