พ่อแม่นักเรียนAFS ร้องช่วยลูกตกค้างอาร์เจนตินากลับไทย

สำนักข่าวไทย 23 เม.ย.-ผู้ปกครองนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ร้องรัฐบาลช่วยเหลือลูกกลับจากอาร์เจนตินา หลังเคยยื่นหนังสือถึงนายกฯไปแล้ว เป็นห่วงความปลอดภัยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งอาร์เจนตินากำลังเข้าสู่ช่วงหน้าหนาว และไม่มีการรณรงค์สวมหน้ากากอนามัย  


นางสุภัทรา สุนทวนิค ตัวแทนผู้ปกครองนักเรียน AFS รุ่น 59 ประเทศอาร์เจนตินา ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทย ว่า จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 กระทบไปทั่วโลกรวมทั้งนักเรียนแลกเปลี่ยนAFS อาร์เจนตินา เนื่องจากมีการประกาศปิดพรมแดนทั้งทางบก อากาศมาตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.ทำให้มีปัญหาในการเดินทางกลับประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้ตนและผู้ปกครองคนอื่นๆ ได้รับการประสานผ่านทางAFS ว่าอาจต้องรอให้มีการเปิดพรมแดนก่อน จึงสามารถเดินทางกลับได้ จึงร่วมกับผู้ปกครองนักเรียนทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเบื้องต้นให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เข้ามาดูแลรับเรื่องต่อ แต่ขณะนี้ กต.แจ้งว่าอาจต้องรอให้อาร์เจนตินา  เปิดน่านฟ้า
“ในฐานะของแม่ ผู้ปกครองที่มีลูกสาวอยู่ไกลตาย่อมเป็นห่วงลูก ซึ่งอาศัยอยู่กับโฮสต์ที่เมืองซานดิเอโก้ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทุกคนต้องอยู่ในบ้าน นักเรียนแลกเปลี่ยนรุ่น 59 นี้ มี 31 คน และยังมีรุ่น58 อีก 19 คน นักเรียนโรตารีและอื่นๆในทวีปอเมริกาใต้ รวม 71 คน อยากให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการพานักเรียนแลกเปลี่ยนที่ตกค้างอยู่กลับไทยเร็วที่สุดเพราะสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอด เวลา และขณะนี้ประเทศอื่นๆได้ส่งเครื่องบินไปรับนักเรียนที่ตกค้างกลับประเทศตนเองหมดแล้ว” นางสุภัทรา กล่าว
ด้านนางสุทธิวรรณ วิญญชมภูนาท ผู้ปกครองนักเรียนแลกเปลี่ยนอีกคนในรุ่นนี้ เปิดเผยว่า ลูกสาวอาศัยอยู่เมืองซานตาเฟ แม้จะยังคงอยู่กับโฮส แต่สิ่งที่เป็นห่วงกังวล คืออาร์เจนตินากำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนผ่านจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งกังวลว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อาจยิ่งรุนแรงมากขึ้น เหมือนในประเทศแถบยุโรป อีกทั้งรัฐบาลของอาร์เจนตินาไม่ได้รณรงค์ให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัย ยิ่งทำให้เป็นห่วงลูกสาวมากขึ้น วอนเร่งดำเนินการนำนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ตกค้างกลับโดยเร็ว .-สำนักข่าวไทย 
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง