ร้องรัฐถอนร่างพ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจ

กรุงเทพฯ 13 ก.ย.-สรส.ร้องรัฐบาล ถอนร่าง พ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจ ออกจาก สนช.ก่อนหารือร่างกฎหมายใหม่ให้เหมาะสม หลังติดใจหลายมาตราไม่ใช่การปฏิรูปแต่เป็นการแปรรูป


นายสาวิทย์  แก้วหวาน  เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) นำทีมเครือข่ายแรงงานรัฐวิสาหกิจ แถลงข่าวเพื่อแสดงจุดยืนและเรียกร้องขอให้รัฐบาลถอดร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสากิจ พ.ศ….ที่ขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือ สนช.ในวาระแรก เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ออกจาก สนช.ก่อน หลังพบว่าเนื้อหาของกฎหมายหลายประเด็นไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของรัฐบาลในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐบาล ที่ต้องการ ให้ปลอดจากการเมืองเข้ามาแทรกแซง บริหารงานโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล ให้เกิดประสิทธิภาพบริการที่ดีแก่ประชาชน เช่น โครงสร้างผู้บริหารบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ ที่ทำหน้าที่ถือหุ้นแทนกระทรวงการคลัง ประกอบไปด้วย คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ( คนร.) คณะกรรมการบรรษัทวิสาหกิจ และคณะกรรมการต่างๆ ล้วนมาจากนักการเมือง ข้าราชการประจำ และนายทุนนักธุรกิจ โดยไม่มีส่วนร่วมจากภาคประชาสัมคม ขณะที่รัฐอ้างว่าไม่มีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลังยังคงถือหุ้นเต็มจำนวน แต่ พ.ร.บ.ฉบับนี้กลับให้อำนาจ คนร.และบรรษัท ในการโอนขายหุ้นได้โดยเสรี ไม่มีกำหนดสัดส่วน ซึ่งหากบรรษัทขายมากกว่าร้อยละ 50 ทำให้กระทรวงการคลังไม่ใช่เจ้าของอีกต่อไป และรัฐวิสาหกิจ รวมถึงพนักงาน ก็จะพ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจ และขาดต่อสิทธิประโยชน์ต่างๆ  อีกทั้ง การบริหารของบรรษัทวิสาหกิจ ยังไม่ต้องผ่านการตรวจสอบงบการเงิน บัญชีจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.แต่จะใช้ผู้ตรวจสอบงบการเงิน งบดุลทางบัญชีที่มีทรัพสินย์มหาศาล ที่มาจากการแต่งตั้งของกระทรวงการคลัง มาตรวจสอบแทน เป็นต้น 


นายสาวิทย์ กล่าวต่อว่า จากเนื้อหาข้างต้นจะเห็นว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้เน้นที่การแปรรูปไม่ใช่ปฏิรูปรัฐวิสาหกิจตามที่ได้กล่าวอ้างตั้งแต่ต้น  ซึ่งหากกฎหมายผ่านความเห็นชอบและประกาศใช้ หุ้นทั้งหมดที่กระทรวงการคลังถือจะถูกโอนให้บรรษัทดูแลทันที ซึ่ง สรส.มองว่าจะทำให้รัฐวิสาหกิจ พนักงานได้รับความเสียหาย ส่วนประชาชน จะไม่ได้รับประโยชน์ แต่กลับเป็นนายทุนที่ได้รัจากกฎหมายฉบับนี้ ดังนั้น จึงออกมาเรียกร้องให้รัฐถอน พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกจาก สนช.ก่อนแล้วกลับมาทบทวนกันใหม่โดยมีภาคประชาสัมคมเข้าร่วมด้วย เนื่องจากที่ผ่านมากฎหมายฉบับนี้ ไม่ได้รับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาสังคม ตามที่ รัฐธรรมนูญ มาตรา 77 กำหนดแต่อย่างใด โดยยืนยัน สรส.เห็นด้วยกับการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ แต่ต้องเหมาะสมและเป็นธรรม.-สำนักข่าวไทย     


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]