ทำเนียบรัฐบาล 21 เม.ย.-โฆษก ศบค.ระบุสภาพจราจรเริ่มติดขัดสะท้อนคนเริ่มเบาใจ แต่วางใจไม่ได้ ย้ำการอยู่บ้านยังเป็นเรื่องจำเป็น ยันไทยยังไม่ปลดล็อก แต่อาจผ่อนปรนบางมาตรการ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงกรณีที่ช่วงนี้สภาพการจราจรเริ่มกลับมาติดขัดซึ่งอาจสะท้อนว่าคนไม่ได้ทำงานที่บ้านแล้ว จำเป็นต้องขอความร่วมมือกับภาคเอกชนหรือไม่ว่า ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และว่า “เมื่อเช้าผมออกจากบ้านพบว่ารถติด อาจเป็นเพราะหลายคนเบาใจ แต่ต้องบอกว่ายังวางใจไม่ได้ หากยังขอได้ ยืนยันว่าการทำงานที่บ้านยังเป็นความจำเป็น”
ส่วนข้อกังวลกรณีผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศถูกกักตัวครบ 14 วันแล้ว จะมีโอกาสแพร่เชื้อภายหลังจากออกจากสถานที่กักตัวหรือไม่ โฆษกศบค. กล่าวว่า ผู้ที่กักตัว ไม่ใช่ผู้ป่วย สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ เพราะก่อนเดินทางมาถูกคัดกรองแล้ว และยังเข้าระบบเฝ้าระวังอีก 14 วัน อย่างไรก็ตาม เมื่อกลับไปใช้ชีวิตปกติ จะต้องปฏิบัติเหมือนคนทั่วไปคือต้องใส่หน้ากากผ้าอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงและการสังสรรค์
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงข้อกังวลเรื่องการติดเชื้อระลอกใหม่ ซึ่งขณะนี้พบอยู่ในหลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์และญี่ปุ่น ว่า ขณะนี้รัฐกำลังศึกษาท่าทีจากหลายประเทศ เช่นสหรัฐอเมริกาที่เกิดการประท้วงเพื่อเรียกร้องให้ผ่อนปรน แต่พบว่าตัวเลขผู้ป่วยกลับพุ่งสูงขึ้น ขณะที่ประเทศสเปนกำลังจะเลื่อนการล็อกดาวน์ออกไปเช่นเดียวกับนิวซีแลนด์
“ส่วนของไทยคุยกันว่าคงจะไม่ใช้คำว่ายกเลิกมาตรการ แต่คงเป็นการผ่อนปรนมากกว่า ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวเลขของแต่ละจังหวัดเหมือนหลักพุทธศาสนา เรื่องการทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี วันนี้อยากย้ำว่าชีวิตต้องอยู่ให้ได้ก่อน แล้วค่อยต่อไปที่เศรษฐกิจและสังคม ต้องทำตัวเลขต่ำ 10 ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อน” โฆษกศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไทย