นนทบุรี19เม.ย.-สธ.ชี้วัคซีนโควิด-19 พัฒนาอยู่ที่ระยะ2 เตรียมMOUทำวิจัยวัคซีนกับจีน
นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยถึง ความคืบหน้าวัคซีนรักษาโควิด-19 สำหรับกลยุทธ์เพื่อสร้างการเข้าถึงวัคซีนให้กับประเทศไทย เบื้องต้นนำวัคซีนต้นแบบที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศมาทดสอบในประเทศไทย , มีแผนรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการผลิต , ทำข้อตกลงในการเข้าถึงวัคซีนสำหรับประเทศไทย เร่งพัฒนาวัคซีนสำหรับประเทศไทย โดยเริ่มต้นตั้งแต่ต้นน้ำ มีนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญพร้อมโรงงานผลิตวัคซีนที่พร้อมดำเนินการ ส่วนเป้าหมายการเข้าถึงวัคซีนให้เร็วที่สุด คาดการณ์ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 จะไม่สงบจนกว่าประชากรมากกว่าร้อยละ 60 จะมีภูมิคุ้มกันซึ่งจะใช้เวลานานและอาจเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างประเมินไม่ได้ , การซื้อวัคซีนจากต่างประเทศอาจทำได้ยากเพราะต้องรอเวลานาน , การพัฒนาศักยภาพการวิจัยพัฒนาเพื่อนำไปสู่การผลิตวัคซีนในประเทศจึงต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากอาจจะต้องมีการถ่ายทอดเทคโนโลยี ต้องมีทั้งบุคลากรและโรงงานที่ดำเนินการผลิต ฉันไม่สามารถเกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น , การลงทุนพัฒนาศักยภาพการผลิตวัคซีนในประเทศ จะทำให้สามารถเข้าถึงวัคซีน ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็จะมีการพัฒนาสู่การผลิตวัคซีนเพื่อรองรับโรคอุบัติใหม่ในอนาคตได้อีกด้วย ขณะนี้การพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ของไทย ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ ศิริราช , คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล , คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ และ บริษัทเอกชน (ไบโอเนท เอเชีย) ได้เริ่มทำการทดลอง ซึ่งอยู่ในระยะที่ 2 จากทั้งหมด 3 ระยะ ก็คือ 1.ระยะให้ความปลอดภัย 2.กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และ 3.ให้ผลในการป้องกัน ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ก้าวหน้าสูงที่สุด เช่นเดียวกับที่มีข่าวว่าจีนได้ทดลองวัคซีนโควิด-19ในมนุษย์ ซึ่งขณะนี้นับเป็นข่าวดีที่ประเทศไทยได้เจรจาความร่วมมือ MOU กับทางการจีนในการร่วมกันพัฒนาวัคซีนโควิด-19.-สำนักข่าวไทย