เปิดด่านชายแดนรับคนไทยกลับประเทศ

ภูมิภาค 18 เม.ย. – ไทยเปิดด่านชายแดนอีกครั้งรับคนไทยกลับประเทศวันแรก ตรวจคัดกรองเข้ม วัดอุณหภูมิ ต้องมีเอกสารครบถ้วน รวมถึงหนังสือยินยอมรับการกักตัว 14 วัน ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดฯ ส่วนที่สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งคนไทย 280 คนกลับบ้าน หลังกักตัวครบ 14 วัน ไม่พบติดโควิด-19 


รับ 11 คนไทยจากกัมพูชากลับประเทศ


ที่จุดคัดกรองโควิด-19 ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายณัฎฐชัย นำพูลสุขสันต์ รองผู้ว่าฯ สระแก้ว พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าทำความเข้าใจกับคนไทย รวม 11 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 3 คน ที่เดินทางกลับมาจากประเทศกัมพูชา เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา หลังทางการไทยอนุโลมให้คนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศไทยเป็นวันแรกผ่านทางจุดผ่านแดนดังกล่าว ทุกคนต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจเอกสารต่างๆ ทั้งหนังสือเดินทาง หนังสือรับรองจากสถานเอกอัคราชทูตกัมพูชา ณ กรุงพนมเปญ และใบรับรองแพทย์ของกัมพูชา ทุกคนต้องมีเอกสารครบถ้วน รวมถึงหนังสือยินยอมรับการกักตัว 14 วัน ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดฯ 

เมื่อผ่านคัดตอนการคัดกรองโรคเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ได้นำคนไทยทั้ง 11 คน ขึ้นรถโดยสารสองแถวขนาดใหญ่ เพื่อไปส่งสถานที่กักกันเป็นเวลา 14 วัน ที่กองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน ต.ท่าเกษม อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว โดยมีรถนำขบวนของตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดสระแก้ว นำไปส่งถึงสถานที่กักกันตัว เพื่อป้องกันการหลบหนีหรือออกนอกเส้นทางที่รองรับไว้แล้ว   


รับคนไทยตกค้างที่ สปป ลาวกลับประเทศ 

ส่วนที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย มีคนไทยที่ตกค้างใน สปป ลาว ที่ได้แจ้งความประสงค์กับสถานทูตไทย ณ เวียงจันทน์ สปป ลาว กลับประเทศเป็นวันแรก โดยได้เดินทางด้วยรถยนต์ที่จัดเตรียมไว้ 6 คน และเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวอีก 1 คน เป็นหญิง 3 คน ชาย 4 คน ส่วนอีก 1 คน ติดปัญหาเรื่องเอกสาร จึงยังไม่สามารถเดินทางวันนี้ได้ ทุกคนที่มาถึงด่านพรมแดนฝั่ง ได้ผ่านการตรวจคัดกรองจากเจ้าหน้าที่ด่านควบคุม และผ่านขั้นตอนการเข้าเมืองจากด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย จัดทำทะเบียนประวัติ, รับฟังคำชี้แจง, เดินทางไปยังสถานที่กักตัว โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดูแล และส่งตัวกลับภูมิลำเนาหลังผ่านการกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันแล้ว

สำหรับด่านแห่งนี้มีคนไทยแจ้งความประสงค์เดินทางกลับประเทศ ล่าสุดมีทั้งหมด 40 คน พรุ่งนี้ (19 เม.ย.) มี 9 คน 

20 เมษายน 15 คน

21 เมษายน 4 คน

22 เมษายน  1 คน 

25 เมษายน 1 คน 

และ 1 พฤษภาคม อีก 2 คน

สำหรับสถานที่กักตัวเตรียมไว้แล้วประมาณ 100 ห้อง หากกลับมาเป็นคู่สามี-ภรรยาก็จะอยู่ในห้องเดียวกัน และเตรียมหาพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อจะรองรับผู้ที่เดินทางกลับมาได้ทั้งหมด เนื่องจากยังไม่มีนโยบายส่งกลับไปจังหวัดปลายทาง นอกจากนี้ยังจะเร่งความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ และชี้แจงให้เห็นว่ามาตรการต่าง ๆ ที่จังหวัดดำเนินการเพื่อความปลอดภัยของทุกคน และคนที่ถูกกักตัวยังไม่ใช่คนที่ติดเชื้อ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน  

ด่านศุลกากรรับคนไทยจาก สปป ลาว 

เช่นเดียวกับที่ด่านศุลกากรบึงกาฬ บ้านพันลำ ม.2 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ศุลกากร และสาธารณสุขจังหวัด รับตัวชาวจังหวัดบึงกาฬที่เดินทางกลับมาจากฝั่ง สปป ลาว จำนวน 1 คน เข้าสู่กระบวนการคัดกรอง ณ สถานที่กักตัว หรือ Local Quarantine ที่จัดเตรียมไว้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ศูนย์การศึกษาบึงกาฬ จากการตรวจเอกสาร สอบถามประวัติ ตรวจวัดไข้ พบยังปกติ เจ้าหน้าที่ส่งไปกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ตามกำหนด สำหรับจังหวัดบึงกาฬมีผู้กักตัวอยู่ในสถานที่กักตัว 27 คน และอยู่ครบกำหนดกักตัว 14 วันแล้ว 8 ราย จึงอนุญาตปล่อยให้กลับบ้านในวันนี้    

ด่านน้ำพุร้อนเปิดให้คนไทยกลับเข้าประเทศ

เช่นเดียวกับที่ด่านบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เปิดให้คนไทยชุดแรกที่ตกค้างในฝั่งบ้านทิกิ ประเทศเมียนมา 98 จาก 500 คน กลับเข้าประเทศได้ กลุ่มที่เข้ามาทั้งหมด ถูกแบ่งส่งตัวไปสถานที่กักกัน 2 แห่ง เป็นสถานที่พักรีสอร์ต ใน ต.วังด้ง อีกชุดส่งไปรีสอร์ต อ.ท่าม่วง และในกลุ่มเสี่ยงนี้มีผู้ป่วย 1 ราย งป่วยด้วยโรคไต ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา นอกจากนี้ยังเหลือคนไทยอีก 2 ชุด ที่จะกลับมาในวันพรุ่งนี้อีก 92 คน ชุดสุดท้ายอีก 100 คน

ส่งคนไทย 280 คนกลับบ้าน หลังกักตัวที่สัตหีบครบ 14 วัน 

ส่วนคนไทยทั้ง 284 คน ที่เดินทางกลับจาก 17 ประเทศ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา และถูกส่งตัวมากักตัว 14 วัน ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์การเฝ้าระวังคนไทยกรณี COVID-19 พื้นที่สัตหีบ จ.ชลบุรี วันนี้ครบกำหนดกักตัว 14 วันแล้ว ทั้ง 280 คน ได้รับการตรวจหาเชื้อรวม 3 ครั้ง ผลปรากฏว่าไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้จัดรถบัส 14 คัน และรถตู้โดยสาร 2 คัน ส่งกลับไปยังศาลากลางจังหวัดตามภูมิลำเนาของแต่ละคน ก่อนจะประสานให้ญาติมารับกลับบ้านต่อไป และขอให้ทุกคนระมัดระวังอย่าเพิ่งออกไปไหน ให้อยู่บ้านก่อนตามมาตรการหยุดเชื้อเพื่อชาติของรัฐบาล ส่วนอีก 4 คน ที่อยู่ห้องเดียวกันมีอาการไข้ เจ้าหน้าที่ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่อง สำหรับพื้นที่กักกัน หลังส่งตัวกลับทั้งหมดแล้ว เจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือจะเข้าดำเนินการทำความสะอาดฆ่าเชื้อในทันที. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ทลายบ่อนกลางกรุง พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา

กทม. 4 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เอาจริง สั่งจัดระเบียบสังคมทันที หลังรับตำแหน่ง มท.1 ประเดิมงานแรก สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนพนันกลางกรุง หลังมีประชาชนร้องเรียน พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 15.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทน นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ปิดบ่อนสะพานใหม่” จับกุมบ่อนการพนันกลางกรุง โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมด้วย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ นายอิสรา เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สนธิกำลังพนักงานฝ่ายปกครองพร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนสะพานใหม่ […]

“ภูมิธรรม​” ย้ำมาตรการชายแดนไทย-กัมพูชาคงเดิม มอบอำนาจ “บิ๊กเล็ก​” เบ็ดเสร็จ

ทำเนียบ 4 ก.ค.-“ภูมิธรรม​” ย้ำมาตรการชายแดนไทย-กัมพูชา คงเดิม ไม่มีผ่อนปรนเข้า-ออกข้ามแดน มอบอำนาจ “บิ๊กเล็ก​” เบ็ดเสร็จ เว้นแต่เปิดด่านต้องเข้าที่ประชุม สมช. นาย​ภูมิธรรม​ เวชย​ชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง​ เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือ​ สมช.​ ว่า ตอนนี้ พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม​ ได้มารายงานสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาให้ทราบ และสรุปว่าสถานการณ์ยังคงมีความตึงเครียด จึงยังคงมาตรการทั้งหมดที่ทำไว้ ซึ่งสมช.ได้รับทราบและขอบคุณที่ทาง ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก. ได้ทำงานมาอย่างต่อเนื่อง และมีมติมอบอำนาจให้พลเอกณัฐพล​ มีอำนาจรับผิดในรายละเอียด​ พูดคุยกับกองทัพ​ ซึ่งอยู่ในคณะกรรมการชุดนี้อยู่แล้ว และให้ไปดำเนินการ หาทางที่คลายปัญหา เมื่อถามว่าไม่ได้มีการพูดคุยถึงการผ่อนปรนมาตรการการผ่านข้ามแดนไทย -กัมพูชาใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยัน​ว่าไม่มี ไม่ได้คุยเรื่องการเปิดด่านแต่อย่างใด และยังคงยืนยันตามมติเดิม เพียงแต่มอบอำนาจให้ พลเอกณัฐพล​ ซึ่งไม่ต้องมารายงานเรื่องละเอียดเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้แบบเบ็ดเสร็จ​ ซึ่งพลเอกณัฐพล ก็เป็นตัวแทนรัฐบาลในทีมไทยแลนด์​อยู่แล้ว​ เพราะฉะนั้นต่อจากนี้ไปในการพิจารณาหาทางออก จนกระทั่งได้คำตอบว่าควรจะทำอย่างไร เมื่อถามว่าแปลว่าทุกเรื่องหลังจากนี้ไปไม่ต้องมารายงานแล้ว แต่มีอำนาจเต็มในการตัดสินใจใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีเรื่องที่ต้องไปพิจารณาหาทางออก […]

“แพทองธาร” หารือผู้บริหาร ก.วัฒนธรรม

ก.วัฒนธรรม 4 ก.ค.-“แพทองธาร” หารือผู้บริหาร ก.วัฒนธรรม แจงข่าวปลอมไทยคืนวัตถุโบราณ 20 รายการ ให้กัมพูชาไม่จริง ชี้ทำตั้งแต่ “รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์” พร้อมสั่งเบรกจัดสรรงบฯ คืนวัตถุโบราณกัมพูชา จ่อแจ้งความคนปล่อยเฟกนิวส์ ปลุกปั่น “กลุ่มปราสาทตาเมือน” ยันอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยไทย ช่วงบ่ายวันนี้ (4 ก.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรก มีข้อที่อยากจะฝากเอาไว้ และอยากจะให้ช่วยกันผลักดัน รวมถึงอยากจะอัปเดตข้อมูลให้ฟัง ซึ่งวันนี้ตนได้ทำการบ้านมาเล็กน้อย และรู้สึกดีใจที่จะได้ฟังจากทุกคนว่า แต่ละหน่วยงานแต่ละฝ่ายทำอะไรกันอยู่บ้าง และในกระทรวงฯ มีอะไรที่อยากให้ดำเนินการเพิ่มเติมบ้าง ประเด็นแรก อยากจะขอชี้แจงเรื่องข่าวปลอม เรื่องการส่งคืนวัตถุโบราณ จำนวน 20 รายการ ให้กับประเทศกัมพูชา ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการคืนวัตถุโบราณให้กับประเทศกัมพูชา มีมาตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งประเทศไทยได้คืนไปแล้ว […]

“สุชัชวีร์” ไขก๊อก “ปชป.” เล็งรวมคนตั้งพรรคใหม่

พรรคประชาธิปัตย์ 4 ก.ค.- “สุชัชวีร์” ไขก๊อก ลาออก “ปชป.” เตรียมรวมคนตั้งพรรคใหม่ ทำการเมืองระดับประเทศ เน้นพัฒนาคนจากการศึกษา ลั่นถ้าการศึกษาเปลี่ยนไม่ได้ อย่าหวังว่าประเทศไทยจะมีอนาคต ส่อไม่ลงผู้ว่าฯ กทม.ต่อ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์ในเวลา 10.00 น. เพื่อกราบไหว้พระแม่ธรณีบีบมวยผม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค ดร.สุชัชวีร์ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าได้ให้เลขานุการส่วนตัวยื่นหนังสือลาจากเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองของคณะกรรมการการเลือกตั้งและนายทะเบียนพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้ว และต้องขอกราบขอบคุณสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าพรรคซึ่งตนได้โทรศัพท์เรียนให้ทราบถึงการตัดสินใจไปแล้ว รวมทั้งขอบคุณกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้เกียรติ ทำงานกับพรรคการเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ขอยืนยันชัดเจนว่าไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งใด ๆ แต่มาจากอุดมการณ์และความฝันของตนที่ออกมาทำงานการเมือง ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในประเทศจริง ๆ เพราะวันนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะที่วิกฤติ และสถานการณ์ขณะนี้รอไม่ได้ ดังนั้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศที่เริ่มต้นจากการพัฒนาคนเรื่องการศึกษา ถือเป็นความตั้งใจอันแน่วแน่และเป็นการตัดสินใจอย่างรอบคอบว่าจากนี้เป็นต้นไปจะใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ทั้งหมด มาใช้ในการเปลี่ยนแปลงประเทศ และเริ่มต้นจากการเปลี่ยนเรื่องของการศึกษา ถ้าเราไม่เปลี่ยนเราแพ้เวียดนามแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ตนยอมไม่ได้ เมื่อถามว่าส่วนหนึ่งในเหตุผลการลาออกคือ พรรคประชาธิปัตย์ยังตัดสินใจร่วมรัฐบาลอยู่ใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า นั่นเป็นการตัดสินใจของพรรค ตนให้เกียรติหัวหน้าพรรคและผู้ใหญ่ในพรรค และไม่ใช่เหตุผลที่ตัดสินใจลาออก เพราะตนมีเหตุผลชัดเจนอย่างที่กล่าวมา ซึ่งสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ วิกฤติทางการเมือง […]