เปิดด่านชายแดนรับคนไทยกลับประเทศ

ภูมิภาค 18 เม.ย. – ไทยเปิดด่านชายแดนอีกครั้งรับคนไทยกลับประเทศวันแรก ตรวจคัดกรองเข้ม วัดอุณหภูมิ ต้องมีเอกสารครบถ้วน รวมถึงหนังสือยินยอมรับการกักตัว 14 วัน ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดฯ ส่วนที่สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งคนไทย 280 คนกลับบ้าน หลังกักตัวครบ 14 วัน ไม่พบติดโควิด-19 


รับ 11 คนไทยจากกัมพูชากลับประเทศ


ที่จุดคัดกรองโควิด-19 ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายณัฎฐชัย นำพูลสุขสันต์ รองผู้ว่าฯ สระแก้ว พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าทำความเข้าใจกับคนไทย รวม 11 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 3 คน ที่เดินทางกลับมาจากประเทศกัมพูชา เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา หลังทางการไทยอนุโลมให้คนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศไทยเป็นวันแรกผ่านทางจุดผ่านแดนดังกล่าว ทุกคนต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจเอกสารต่างๆ ทั้งหนังสือเดินทาง หนังสือรับรองจากสถานเอกอัคราชทูตกัมพูชา ณ กรุงพนมเปญ และใบรับรองแพทย์ของกัมพูชา ทุกคนต้องมีเอกสารครบถ้วน รวมถึงหนังสือยินยอมรับการกักตัว 14 วัน ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดฯ 

เมื่อผ่านคัดตอนการคัดกรองโรคเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ได้นำคนไทยทั้ง 11 คน ขึ้นรถโดยสารสองแถวขนาดใหญ่ เพื่อไปส่งสถานที่กักกันเป็นเวลา 14 วัน ที่กองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน ต.ท่าเกษม อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว โดยมีรถนำขบวนของตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดสระแก้ว นำไปส่งถึงสถานที่กักกันตัว เพื่อป้องกันการหลบหนีหรือออกนอกเส้นทางที่รองรับไว้แล้ว   


รับคนไทยตกค้างที่ สปป ลาวกลับประเทศ 

ส่วนที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จ.หนองคาย มีคนไทยที่ตกค้างใน สปป ลาว ที่ได้แจ้งความประสงค์กับสถานทูตไทย ณ เวียงจันทน์ สปป ลาว กลับประเทศเป็นวันแรก โดยได้เดินทางด้วยรถยนต์ที่จัดเตรียมไว้ 6 คน และเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวอีก 1 คน เป็นหญิง 3 คน ชาย 4 คน ส่วนอีก 1 คน ติดปัญหาเรื่องเอกสาร จึงยังไม่สามารถเดินทางวันนี้ได้ ทุกคนที่มาถึงด่านพรมแดนฝั่ง ได้ผ่านการตรวจคัดกรองจากเจ้าหน้าที่ด่านควบคุม และผ่านขั้นตอนการเข้าเมืองจากด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย จัดทำทะเบียนประวัติ, รับฟังคำชี้แจง, เดินทางไปยังสถานที่กักตัว โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดูแล และส่งตัวกลับภูมิลำเนาหลังผ่านการกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันแล้ว

สำหรับด่านแห่งนี้มีคนไทยแจ้งความประสงค์เดินทางกลับประเทศ ล่าสุดมีทั้งหมด 40 คน พรุ่งนี้ (19 เม.ย.) มี 9 คน 

20 เมษายน 15 คน

21 เมษายน 4 คน

22 เมษายน  1 คน 

25 เมษายน 1 คน 

และ 1 พฤษภาคม อีก 2 คน

สำหรับสถานที่กักตัวเตรียมไว้แล้วประมาณ 100 ห้อง หากกลับมาเป็นคู่สามี-ภรรยาก็จะอยู่ในห้องเดียวกัน และเตรียมหาพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อจะรองรับผู้ที่เดินทางกลับมาได้ทั้งหมด เนื่องจากยังไม่มีนโยบายส่งกลับไปจังหวัดปลายทาง นอกจากนี้ยังจะเร่งความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ และชี้แจงให้เห็นว่ามาตรการต่าง ๆ ที่จังหวัดดำเนินการเพื่อความปลอดภัยของทุกคน และคนที่ถูกกักตัวยังไม่ใช่คนที่ติดเชื้อ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน  

ด่านศุลกากรรับคนไทยจาก สปป ลาว 

เช่นเดียวกับที่ด่านศุลกากรบึงกาฬ บ้านพันลำ ม.2 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ศุลกากร และสาธารณสุขจังหวัด รับตัวชาวจังหวัดบึงกาฬที่เดินทางกลับมาจากฝั่ง สปป ลาว จำนวน 1 คน เข้าสู่กระบวนการคัดกรอง ณ สถานที่กักตัว หรือ Local Quarantine ที่จัดเตรียมไว้ในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ศูนย์การศึกษาบึงกาฬ จากการตรวจเอกสาร สอบถามประวัติ ตรวจวัดไข้ พบยังปกติ เจ้าหน้าที่ส่งไปกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ตามกำหนด สำหรับจังหวัดบึงกาฬมีผู้กักตัวอยู่ในสถานที่กักตัว 27 คน และอยู่ครบกำหนดกักตัว 14 วันแล้ว 8 ราย จึงอนุญาตปล่อยให้กลับบ้านในวันนี้    

ด่านน้ำพุร้อนเปิดให้คนไทยกลับเข้าประเทศ

เช่นเดียวกับที่ด่านบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เปิดให้คนไทยชุดแรกที่ตกค้างในฝั่งบ้านทิกิ ประเทศเมียนมา 98 จาก 500 คน กลับเข้าประเทศได้ กลุ่มที่เข้ามาทั้งหมด ถูกแบ่งส่งตัวไปสถานที่กักกัน 2 แห่ง เป็นสถานที่พักรีสอร์ต ใน ต.วังด้ง อีกชุดส่งไปรีสอร์ต อ.ท่าม่วง และในกลุ่มเสี่ยงนี้มีผู้ป่วย 1 ราย งป่วยด้วยโรคไต ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา นอกจากนี้ยังเหลือคนไทยอีก 2 ชุด ที่จะกลับมาในวันพรุ่งนี้อีก 92 คน ชุดสุดท้ายอีก 100 คน

ส่งคนไทย 280 คนกลับบ้าน หลังกักตัวที่สัตหีบครบ 14 วัน 

ส่วนคนไทยทั้ง 284 คน ที่เดินทางกลับจาก 17 ประเทศ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา และถูกส่งตัวมากักตัว 14 วัน ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์การเฝ้าระวังคนไทยกรณี COVID-19 พื้นที่สัตหีบ จ.ชลบุรี วันนี้ครบกำหนดกักตัว 14 วันแล้ว ทั้ง 280 คน ได้รับการตรวจหาเชื้อรวม 3 ครั้ง ผลปรากฏว่าไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้จัดรถบัส 14 คัน และรถตู้โดยสาร 2 คัน ส่งกลับไปยังศาลากลางจังหวัดตามภูมิลำเนาของแต่ละคน ก่อนจะประสานให้ญาติมารับกลับบ้านต่อไป และขอให้ทุกคนระมัดระวังอย่าเพิ่งออกไปไหน ให้อยู่บ้านก่อนตามมาตรการหยุดเชื้อเพื่อชาติของรัฐบาล ส่วนอีก 4 คน ที่อยู่ห้องเดียวกันมีอาการไข้ เจ้าหน้าที่ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่อง สำหรับพื้นที่กักกัน หลังส่งตัวกลับทั้งหมดแล้ว เจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือจะเข้าดำเนินการทำความสะอาดฆ่าเชื้อในทันที. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ