กทม. 17 เม.ย. – เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงต่อเนื่อง มีแนวโน้มว่าการควบคุมสถานการณ์ได้ผล มีข้อเสนอว่าควรจะผ่อนคลายมาตรการหรือไม่ แนวทางต้องเป็นอย่างไร
สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 มีสัญญาณดีขึ้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่มีเพียง 28 คน คำถามที่ว่ารัฐบาลจะผ่อนปรนมาตรการหรือไม่ ข้อเสนอนี้ถูกหยิบยกมาหารือภายใต้มาตรการผ่อนคลายกึ่งล็อกดาวน์ โดยมีกฎเกณฑ์คุมเข้ม เช่น หากเปิดร้านตัดผม ต้องเว้นระยะห่างที่นั่งหรือเตียงนอนสระผม ให้ใช้บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมง งดทำเล็บ ส่วนห้างสรรพสินค้าต้องจำกัดคนเข้า ขณะที่ประชาชนต้องมี New Normal ความปกติในรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง ซึ่งการผ่อนปรนจะได้ข้อสรุปสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม หากประเทศใดจะยกเลิกมาตรการ ต้องมี WHO มีข้อกำหนดไว้ 6 ข้อ คือ ควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศได้, มีระบบสุขภาพที่สามารถตรวจหาผู้ติดเชื้อ สอบสวนโรคและรักษาได้, สถานที่ที่เสี่ยงมากที่สุดจะต้องมีความเสี่ยงน้อยที่สุด, โรงเรียน สถานที่สาธารณะ ต้องมีมาตรการป้องกันโรคอย่างมีประสิทธิภาพ และจัดการความเสี่ยงจากคนเดินทางเข้าประเทศ และทุกคนต้องมีความรู้ และมีส่วนร่วม
ขณะเดียวกันต้องจับตา 6 เที่ยวบินจาก 4 ประเทศ ที่นำคนไทยกลับบ้านกว่า 600 คน ในจำนวนนี้ มีนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS จากสหรัฐ 424 คน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอัตราผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก แต่ ศบค.ยืนยันวางมาตรการรับมือเข้มงวด โดยกำหนดว่าแต่ละวันจะนำคนไทยกลับเข้ามาไม่เกิน 200 คนต่อวัน ซึ่งทางการมีรายชื่อและไฟลท์บินที่ชัดเจน มั่นใจมีระบบรองรับอย่างดี
วันพรุ่งนี้ กระทรวงมหาดไทยยังเตรียมเปิดจุดผ่านแผนถาวรตามชายแดน 21 จังหวัด 23 โดยเฉพาะ 5 ด่านชายแดนใต้ กำหนดให้เข้าไทยได้ไม่เกินวันละ 50-100 คน ต่อ 1 ช่องทาง ทุกคนที่จะเดินทางกลับต้องมีใบรับรองแพทย์ หนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศ ที่สำคัญต้องยินยอมรับการกักตัวสถานที่ที่รัฐกำหนดด้วย. – สำนักข่าวไทย