ทำเนียบฯ 15 เม.ย.- ครม.อนุมัติกำลังคนภาครัฐ 38,105 อัตรา 24 สายงาน เข้าสอบคัดเลือกตามระเบียบ พร้อมจัดสรรอัตราข้าราชการให้นักศึกษาแพทย์และทันตแพทย์จบใหม่ 2,792 อัตรา ให้เงินเพิ่มพิเศษแพทย์พยาบาล 1,500 ต่อเดือน และกลุ่มสนับสนุน 1,000 ต่อเดือน จนถึงเดือนกันยายน
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ในการประชุมครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563 ตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐเสนอ โดยอนุมัติ 38,105 อัตรา 24 สายงาน โดยมีเงื่อนไขให้ยกคนกลุ่มเดิมที่ทำงานอยู่แล้วเป็นข้าราชการ โดยการสอบคัดเลือกใช้ ม.55 ซึ่งจะไปทำความตกลงกันอีกครั้งว่าจะใช้วิธีสอบคัดเลือกแบบไหน
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลจากการที่ยกคนกลุ่มนี้ เป็นข้าราชการ จะทำให้ไทยมีอัตราแพทย์เต็มตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้และห้ามใช้เงินเดิมไปบรรจุคนใหม่ ทั้งนี้ การที่จะบรรจุอัตราว่างได้นั้น ต้องเป็นตำแหน่งอื่นที่จำเป็น ไม่ได้อยู่ในสายงาน 24 สายงานที่ได้รับการบรรจุไป เช่น แพทย์แผนไทย ต้องทดลองปฏิบัติราชการตามปกติ ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ได้บรรจุ ขณะที่ในส่วนอายุราชการนับย้อนได้แต่ไม่นำมาคิดเวลาเพื่อรับบำนาญ จะทยอยบรรจุ 3 รุ่น คือ รุ่นเดือนพฤษภาคม รุ่นเดือนสิงหาคม และรุ่นเดือนพฤษศจิกายน การบรรจุก่อน 1 ตุลาคม ทำให้ต้องใช้งบกลางปี 2563
นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังจัดสรรอัตราข้าราชการให้นักศึกษาแพทย์และทันตแพทย์จบใหม่ 2,792 อัตรา จากที่ขอ 7,579 อัตรา ส่วนเภสัชกร พยาบาลและนักวิชาการสาธารณสุข 4,787 อัตรานั้น ขอให้ทำแผนเสนออีกครั้ง และยังให้เงินเพิ่มพิเศษรวม 2,700 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มปฏิบัติงานตรง เช่น แพทย์ พยาบาล 1,500 บาทต่อเดือน ถึงกันยายน และกลุ่มสนับสนุน 1,000 บาท ต่อเดือน ถึงเดือนกันยายน พร้อมกันนี้ ยังให้โควตาพิเศษ 2 ขั้น ขณะที่อายุราชการทวีคูณ ไม่อยู่ในเกณฑ์ตามกฎหมาย ตามกฎหมายจะระบุให้เฉพาะ ตอนประกาศกฎอัยการศึกเท่านั้น
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีการลดดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษ สำหรับธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน จ่ายเงินช่วยบุคลากรที่ติดเชื้อ ตามเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด และบุคลากรทางการแพทย์ได้รับบริจาคการทำประกันสุขภาพแล้ว จำนวน 320,000 กรมธรรม์ สำหรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่รัฐมอบให้บุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข ยังมอบให้แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ ของสังกัดอื่นด้วยเช่น ตำรวจ ทหาร มหาวิทยาลัย ท้องถิ่น สายแพทย์ที่เกี่ยวกับ COVID-19 .-สำนักข่าวไทย