สธ.12 เม.ย..-นพ.โสภณ ย้ำ การตรวจแบบActive case finding ทำให้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในระยะแรกและเข้าสู่การกักกันได้ไว มีประสิทธิภาพ
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณี การตรวจกลุ่มก้อนเป้าหมาย Active case finding มีรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจ.ภูเก็ต สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่11 ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบข้อมูลที่น่าสนใจ มีการตรวจค้นหาผู้ป่วยรายใหม่เชิงรุกในชุมชนในจ.ภูเก็ต มุ่งไปพื้นที่ที่มีผู้ป่วยรายงานการติดเชื้อมาก่อน และหาผู้ที่มีความเสี่ยง ทำงานอาชีพที่ต้องสัมผัสกับคนจำนวนมากหรือสัมผัสนักท่องเที่ยว สามารถค้นหาผู้ติดเชื้อได้มากถึง9% แต่การตรวจหาในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการไม่ชัดเจน อัตราการพบผู้ติดเชื้อจะน้อย เพียง 3.9% และการตรวจในกลุ่มเสี่ยงน้อยหรือ ประชาชนทั่วไป จะพบผู้ติดเชื้อเพียง 1.1%
ซึ่งการตรวจกลุ่มก้อนเป้าหมาย Active case finding ทำให้พบผู้ที่ติดเชื้อได้ในระยะแรก สามารถนำเข้าสู่การกักตัวในสถานที่ไม่แพร่เชื้อต่อ จนครบ14 วันเพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อในประชาชนทั่วไป ซึ่งเมื่อดำเนินการในเชิงรุกทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น ทั้งนี้พบว่าภูเก็ต เป็นจังหวัดที่พบผู้ป่วยเป็นอันดับต้นๆ ติด5 อันดับแรก ขณะนี้ถือว่าสามารถควบคุมได้ดี มีแนวโน้มพบอัตราการป่วยน้อยลง
นพ.โสภณ กล่าวว่า ผู้ป่วยจำนวน 2,551 ราย รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 1,295 ราย กลับบ้าน 1,218 ราย อยู่รพ. 51% และในจำนวนนี้ไทยพบผู้เสียชีวิตเพียง 1% และพบว่าอัตราการหายกลับบ้านของประเทศไทยอยู่ในอันดับต้นๆเมื่อเทียบกับทั่วโลก และจำนวนคนที่อยู่ในรพ.ขณะนี้ก็เป็นผู้ที่มีอาการน้อย แต่ที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านคือกลุ่มที่ปลอดภัยแล้ว สามาถใช้ชีวิตปกติ อยู่กับชุมชนได้ ไม่ต้องกลัวหรือรังเกียจ ไม่ต้อนรับ หลายคนมีภูมิคุ้มกันที่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ด้วย
นอกจากนี้ งานวิจัยของหลายโรงพยาบาลและคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี พบว่า สายพันธุ์โควิด-19ที่พบในประเทศไทย มีสายพันธ์ย่อยที่คล้ายกับในต่างประเทศ ในช่วงแรก เข้ามาทางประเทศจีน ส่วนช่วงที่2 เข้ามาทางฝั่งยุโรป และสหรัฐอเมริกา โดยขณะนี้ไทยพบ สายพันธุ์ เอ2 และบี1 ,บี1.4 หมายความว่า ประเทศไทยนำเชื้อจากหลายทิศทางจึงไม่แปลกที่จะพบว่าเป็นเชื้อที่คล้ายกับในต่างประเทศ แต่ยังไม่มีข้อมูลที่บอกว่าเชื้อชนิดใดรุนแรงกว่ากัน ที่สำคัญคือต้องติดตาม ป้องกัน และรักษา ไม่ว่าสายพันธุ์ใดต้องรักษาต้องรักษามาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ทั้งนี้พบ ผู้ป่วย 25 รายแรก เป็นผู้ป่วยที่กลับมาจากอู่ฮั่น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงกรานต์ หากต้องการเล่นสงกรานต์สิ่งที่กังวลคือ น้ำมูก น้ำลาย หรืออาจจะมีการตะโกน ส่งเสียง ที่อาจเป็นการแพร่กระจายของเชื้อได้ หากต้องการเล่นน้ำให้ใช้น้ำสะอาด เช่นน้ำประปาที่ใช้อาบ หากต้องการเล่นสงกรานต์ปีนี้ ย้ำว่า แม้เล่นในบ้านกันเอง ก็ต้องใส่หน้ากากด้วย เพื่อไม่ให้รับเชื้อที่อาจมาจากทางน้ำมูกน้ำลายคนอื่น.-สำนักข่าวไทย
