กรุงเทพฯ 10 เม.ย.- มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยนำความรู้ในการป้องกันโควิด-19 ที่ได้รับจาก สปสช. และเครือข่ายสุขภาพ ทั้งการล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ไปใช้ในการปฏิบัติ ช่วยให้การปฏิบัติศาสนกิจของสงฆ์เป็นไปอย่างถูกต้องและปลอดจากโรค
พระมหาประยูร โชติวโร ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ มจร. กล่าวว่า ภายหลังได้รับการถวายความรู้จาก สปสช. ในการดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ผลการจากได้รับการถวายความรู้ไป 2 สัปดาห์ พบว่า พระนิสิตในมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยมีการปรับเปลี่ยนการดูแลสุขอนามัยในภาวะวิกฤติโควิด-19 อย่างเคร่งครัดมากขึ้น โดยมีการสวมหน้ากากอนามัย เมื่อออกจากหอพัก และไปยังสถานที่ชุมชน และหมั่นล้างมือกันมากขึ้น
พร้อมกันนี้ คณะผู้บริหารมหาจุฬาลงกรณฯ ยังปรับเปลี่ยน การดูแลหอพักนิสิตพระใหม่ เปลี่ยนการให้พำนักห้องละ 4 รูป เป็นให้พำนักแค่ 2 รูป/ห้อง พร้อมจัดเปลี่ยนที่นอนใหม่ ให้ห่างกันในระยะเหมาะสม 1-2 เมตร เพื่อความปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันมีนิสิตพระ นิสิตภิกษุณี และสามเณร มาพำนักยังหอนอนรวม 403 รูป
ส่วนการฉันภัตตาหารที่หอฉัน ก็เปลี่ยนรูปแบบใหม่ คือ จากเดิมฉันร่วมกัน เป็นการตักอาหารและฉันในบาตรแทน เพื่อความปลอดภัย และงดการจัดกิจกรรม ซึ่งในระหว่างนี้ มหาจุฬาลงกรณฯ อยู่ในระหว่างการปิดภาคเรียน ประกอบกับพระนิสิตจากต่างประเทศยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศเดิมของตนเอง ทำให้การดูแลสุขภาพในระหว่างนี้ต้องเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย และจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบพระนิสิตอาพาธด้วยโรคโควิด-19 แม้แต่รูปเดียว.-สำนักข่าวไทย