ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค มี.ค.อยู่ที่ 50.3 ต่ำสุดในรอบ 21 ปี 6 เดือน

กรุงเทพฯ 9 เม.ย. – ม.หอการค้าไทยเผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค มี.ค.อยู่ที่ 50.3 ต่ำสุดในรอบ 21 ปี 6 เดือน คาดครึ่งปีแรกเม็ดเงินหายจากระบบเศรษฐกิจ 1-1.5 ล้านล้านบาท


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมีนาคม 2563 ว่า ผลพวงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 21 ปี 6 เดือน เทียบได้กับช่วงเหตุการณ์วิกฤติต้มยำกุ้งเป็นอย่างน้อย โดยอยู่ที่ระดับ 50.3 ปรับตัวลดลงจากระดับ 64.8 ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดัชนีตกลงเป็นเดือนที่ 19  ตกแรงที่สุดนับตั้งแต่มีการสำรวจมา ค่าดัชนีต่าง ๆ ทั้งดัชนีค่าครองชีพ ดัชนีความสุข ดัชนีความเชื่อมั่นในโอกาสหางานทำปัจจุบันก็ต่ำสุด เนื่องจากประชาชนขาดความเชื่อมั่นในอนาคตสูงมาก สถิติการปรับตัวลดลงของดัชนีหลายตัวครั้งนี้ และการสำรวจครั้งนี้อยู่ในช่วงของการสั่งปิดห้างร้านต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ และตามด้วยการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเดือนนี้จึงไม่ปกติ 

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สถานการณ์แพร่ระบาดครั้งนี้ ทำให้ภาพรวมความเชื่อมั่นผู้บริโภคไม่ดี และน่าจะทำให้กำลังซื้อหายไป โดยครึ่งปีแรกเม็ดเงินจะหายจากระบบเศรษฐกิจอย่างน้อย 1-1.5 ล้านล้านบาท เนื่องจากปกติคนไทยจะมีการบริโภควันละประมาณ 20,000 ล้านบาท การทำงานที่บ้าน เว้นระยะห่างทางสังคม ไม่สามารถเดินทางไปมาได้ง่าย น่าจะทำให้กำลังซื้อคนไทยทั้งประเทศหายไปอย่างน้อยวันละ 5,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันการล็อคดาวน์ประเทศ นักท่องเที่ยวไตรมาสแรกหายไปกว่า 40 % เกือบกว่า 4 ล้านคน จากปกติ 10 ล้านคน เหลือเพียงกว่า 6 ล้านคน และไตรมาส 2 ประเทศไทยเริ่มล็อคดาวน์แล้ว นักท่องเที่ยวจึงไม่น่าจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากนัก จากปกติเข้ามาท่องเที่ยว 9 ล้านคน สถานการณ์นี้ทำให้นักท่องเที่ยวหายไปเกือบหมด คือ หายไปกว่า 8 ล้านคน รวมแล้วครึ่งแรกปีนี้นักท่องเที่ยวหายไป 12-13 ล้านคน  ซึ่งปกติใช้เงินคนละ 45,000-50,000 บาทต่อคน ส่งผลให้เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวหายไปประมาณ 600,000 บาทเป็นอย่างน้อย บวกกับการท่องเที่ยวในประเทศเม็ดเงินจะหายไปอีกกว่า 100,000 ล้านบาท รวมเม็ดเงินหายไปกว่า 700,000 ล้านบาท บวกกับการบริโภคในประเทศที่หายไปด้วยวันละ 5,000 ล้านบาท หรือเดือนละ 150,000 ล้านบาท ช่วง 2-3 เดือนเม็ดเงินหายไปประมาณกว่า 300,000 ล้านบาท รวมแล้วครึ่งปีแรกเม็ดเงินจะหายจากอย่างน้อย 1 ล้านล้านบาท รวมถึงการค้าชายแดนที่ลดลงไปด้วย


นายธนวรรธน์ กล่าวถึงมาตรการเยียวยาของรัฐ 1.9 ล้านล้านบาทว่า เม็ดเงินจะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจจริงประมาณ 600,000-800,000 ล้านบาท ความเสียหายเศรษฐกิจยังต้องประเมิน โควิด-19 จะคลี่คลายลงเมื่อใด หากสามารถคลี่คลายลงได้ในช่วงเดือนมิถุนายนปีนี้ เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 จะกลับมาเป็นบวกได้ แต่หากช้ากว่านั้น เศรษฐกิจไทยจะติดลบทั้ง 4 ไตรมาส ขึ้นกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกเช่นกัน โดยสหภาพยุโรปและสหรัฐ สถานการณ์การแพร่ระบาดจะอาจคลี่คลายในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2563 เบื้องต้นประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะติดลบ 4-6% และกำลังพิจารณามาตรการเยียวยาภาครัฐและจะปรับประมาณการเศรษฐกิจใหม่ในวันที่ 16 เมษายนนี้.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้