กรุงเทพฯ 8 เม.ย.-สมาคมชาวสวนมะม่วงไทยระบุผลผลิตมะม่วงออกสู่ตลาดมากขณะนี้ ประสบปัญหาส่งออกไม่ได้จากการปิดด่านและระงับเที่ยวบิน ด้านกรมส่งเสริมการเกษตรเร่งช่วยเหลือนำสินค้าเข้าสู่ระบบออนไลน์ ประสานไปรษณีย์ไทยส่งตรงถึงบ้าน
นายมนตรี ศรีนิล นายกสมาคมชาวสวนมะม่วงไทย กล่าวว่า วิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดปัญหาการส่งออกมะม่วงอย่างมาก เนื่องจากมีการปิดด่านมาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว และเวียดนามที่เป็นแหล่งรับซื้อหลัก โดยเฉพาะมะม่วงเกรดรอง จึงไม่สามารถส่งออกได้ ส่วนเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นตลาดรับซื้อมะม่วงเกรดพรีเมี่ยมนั้น สายการบินต่าง ๆ ระงับเที่ยวบินบางเส้นทาง ทำให้ค่าระวางการจัดส่งเพิ่มขึ้น ในฤดูกาลผลิตมะม่วงปี 2563 จะมีเกษตรกรชาวสวนมะม่วงได้รับผลกระทบอย่างมาก
สำหรับแหล่งผลิตสำคัญของไทยมี 12 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ อุดรธานี พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย น่าน ลำพูน และเชียงใหม่ พื้นที่ประมาณ 300,000 ไร่ ผลผลิตรวม 360,000 ตัน มีผลผลิตในฤดูที่จะเก็บเกี่ยวระหว่างเดือนเมษายน – มิถุนายน 180,000 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของผลผลิตทั้งหมด โดยมะม่วงจะออกสู่ตลาดมากกลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม 80,000 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 44.44 ซึ่งจำเป็นต้องหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนมะม่วง โดยขณะนี้ราคามะม่วงหน้าสวนพบว่ามะม่วงน้ำดอกไม้สีทองอยู่ที่ 17 บาท/กิโลกรัม มะม่วงน้ำดอกไม้เบอร์สี่ 12 บาท/กิโลกรัม ฟ้าลั่น 5 บาท/กิโลกรัม โชคอนันต์ 6 บาท/กิโลกรัม มหาชนก 12 บาท/กิโลกรัม และอาร์ทูอีทู 25 บาท/กิโลกรัม เป็นต้น ซึ่งเป็นราคาที่ลดลงกว่าทุกปีที่ผ่านมา
นายทวี มาสขาว รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กำลังเร่งบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว จากการจัดทำระบบส่งเสริมการผลิตมะม่วงแบบแปลงใหญ่ในพื้นที่ 10 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และอุดรธานี และภาคเหนือ 6 จังหวัดได้แก่ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย น่าน และเชียงใหม่ เมื่อมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผลผลิตมะม่วงคุณภาพส่งออกไม่ได้เช่นกัน ขณะนี้ผู้รับซื้อมะม่วงเกรดคุณภาพเพื่อการส่งออกหยุดรับซื้อเนื่องจากไม่สามารถส่งออกตลาดเกาหลี ญี่ปุ่น และยุโรป ซึ่งปกติจะส่งมะม่วงโดยการขนส่งทางอากาศ แต่มีการระงับการขนส่งทางอากาศบางเที่ยวบิน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการส่งออกเพิ่มขึ้นจากเดิม 20 บาท/กิโลกรัม เป็น 80 บาท/กิโลกรัม
ล่าสุดประสานภาคเอกชนที่เป็นศูนย์กระจายสินค้าช่วยเหลือเกษตรกรขนส่งมะม่วงกระจายไปทุกจังหวัด โดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ยินดีลดค่าขนส่งข้ามจังหวัด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตรยังส่งเสริมให้เกษตรกรคัดเลือกสินค้าและแนะนำเกษตรกรให้เปิดขายผ่านระบบออนไลน์ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ผ่านช่องทางต่าง ๆ และรณรงค์ให้ส่วนราชการและประชาชนช่วยกันซื้อมะม่วงคุณภาพดีไปเป็นของขวัญของฝาก เป็นต้น
ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) รายงานว่าพื้นที่ปลูกมะม่วงของประเทศไทยมี 1.97 ล้านไร่ ผลผลิตรวม 3.12 ล้านตัน ผลผลิตเฉลี่ย 1,583 กิโลกรัมต่อไร่ ต้นทุนการผลิต 5.42 บาท/กิโลกรัม ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ย 29.75 บาท/กิโลกรัม มีปริมาณการส่งออก 117,472 ตัน มูลค่า 4,385 ล้านบาท โดยการส่งออกมะม่วงสดอบไอน้ำไปญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตลาดหลักสำคัญปี 2562 มีปริมาณ 12,136.70 ตัน มูลค่า 1,261.70 ล้านบาท โดยในช่วงฤดูกาลผลิตมะม่วง (เมษายน – มิถุนายน) ส่งออกได้ปริมาณ 6,327 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 52.13 มูลค่า 613.58 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 48.63 โดยมีโรงอบไอน้ำที่รองรับได้ 7 โรง สำหรับเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2563 ส่งออกได้ปริมาณ 1,901.82 ตัน มูลค่า 168.91 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2562 ในช่วงเวลาเดียวกันส่งออกได้ 1440.69 ตัน มูลค่า 161.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 แต่ฤดูกาลผลิตที่มะม่วงออกสู่ตลาดมากที่สุด คือ เมษายนถึงมิถุนายนจะได้รับผลกระทบจากการส่งออกหดตัวอย่างรุนแรง.-สำนักข่าวไทย