นนทบุรี 3 พ.ค.-รองอธิบดีกรมการค้าภายในลงพื้นที่จังหวัดพิจิตรและพิษณุโลก พาผู้ประกอบการรับซื้อมะม่วงจากเกษตรกร อัปราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 20 บาท หลังมะม่วงเข้าสู่ช่วงปลายฤดูกาล เหลือผลผลิตอีกไม่มาก ก็จะหมดแล้ว เผยปีนี้ราคาดีขึ้นต่อเนื่อง หลังใช้อมก๋อยโมเดล นำผู้ประกอบการเข้าไปช่วยซื้อแล้วกว่า 16,000 ตัน และนำผลผลิตกระจายผ่านจุด Fruit Festival 2023 และช่องทางต่าง ๆ ทั่วประเทศ ดันราคามะม่วงน้ำดอกไม้ เพิ่ม 36% มะม่วงฟ้าลั่น เพิ่ม 64% ทำชาวสวนยิ้มออก รายได้เพิ่มขึ้น
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่พบปะเกษตรกรกลุ่มผู้ปลูกมะม่วงแปลงใหญ่บ้านลำภาศ ตำบลบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก และกลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงตำบลวังทับไทร อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2566 ว่า กรมฯ ได้พาผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรตั้งแต่ต้นฤดูการผลิต จนถึงปัจจุบันซึ่งเป็นช่วงปลายฤดูการผลิตแล้ว ซึ่งในภาพรวมผลผลิตของจังหวัดพิจิตรและพิษณุโลกจะหมดฤดูกาลประมาณวันที่ 5 พ.ค.2566 นี้ และจากการลงพื้นที่ พบว่า ปีนี้กลุ่มเกษตรกรมีการวางแผนการผลิตที่ดีทำให้มีมะม่วงเกรดคุณภาพเพียงพอสำหรับการจำหน่ายจนสิ้นสุดฤดูกาล ส่งผลให้เกษตรกรสามารถจำหน่ายมะม่วงได้ในราคาสูง โดยเกรดส่งออก ณ วันที่ 3 พ.ค.2566 อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 35 บาท เกรดคละ ราคา กก.ละ 18-20 บาท เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับในช่วงปลายฤดูการผลิตปีที่ผ่านมา ราคาผลผลิตช่วงปลายฤดู มะม่วงน้ำดอกไม้อยู่ที่กก.ละ 13-15 บาทเท่านั้น และในส่วนของมะม่วงฟ้าลั่น ผลผลิตใน 2 จังหวัด สิ้นสุดฤดูกาลแล้ว โดยราคาปีนี้อยู่ที่ 9-10 บาท สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ ราคา 5-6 บาท เพิ่มขึ้น 64%
“ต้องขอขอบคุณพี่น้องเกษตรกรที่ช่วยดูแลรักษาคุณภาพผลผลิตได้ดีตั้งแต่ต้นจนถึงปลายฤดูกาล ทำให้มีผลผลิตมะม่วงเกรดคุณภาพ ซึ่งสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูง โดยในช่วงต้นฤดูเกษตรกรสามารถขายได้ กก. ละ 40 บาทจนเริ่มต้นฤดู กก.ละ 30 บาท และปัจจุบันปลายฤดู ยังคงรักษาระดับราคาได้อยู่ที่ กก.ละ 20 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ดีกว่าปีก่อนมาก”นายกรนิจกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วง นายบุญส่ง สีสะท้าน เกษตรกรจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มพัฒนาการผลิตมะม่วงเพื่อการส่งออก ต.พันชาลี อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ให้ข้อมูลว่า ราคามะม่วงปีนี้ ดีกว่าที่ผ่านมามาก ปัจจุบันความต้องการยังมีมาก ทำให้ราคาขายได้ดี กก.ละ 18-20 บาท ส่วนเกษตรกรที่ไม่มีช่องทางการตลาด ก็ได้กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด เข้ามาช่วยเหลือ โดยนำผู้ประกอบการเข้ามารับซื้อถึงที่และสามารถขายผลผลิตได้ราคาดี โดยกลุ่มเกษตรกรที่กรมการค้าภายในพาผู้ประกอบการมารับซื้อ มีจำนวน 10 กลุ่ม ใน 2 จังหวัด 7 อำเภอ ได้แก่ พิจิตร (อ.เมือง อ.สากเหล็ก อ.ดงเจริญ อ.วังทรายพูน) และพิษณุโลก (อ.เมืองอ.วังทอง อ.เนินมะปราง) โดยผลการรับซื้อล่าสุดรวมแล้วประมาณ 16,000 ตัน และนำไปไปกระจายผ่านจุด Fruit Festival 2023 ทั้งในห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างท้องถิ่น และช่องทางต่าง ๆ ทั่วประเทศ ส่วนกรณีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองบ้านหนองปรือ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ที่มีการร้องเรียนว่าราคามะม่วงตกต่ำ ไม่มีตลาดปลายทาง พบว่าปัจจุบันมีคนเข้าไปรับซื้อเป็นจำนวนมาก การรับซื้อผลผลิตตกเกรด อยู่ที่ กก. ละ 10 บาท โดยผลผลิตของกลุ่มเหลือประมาณไม่ถึง 50 ตัน สำหรับมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง เกรดคละ มีผู้ประกอบการติดต่อรับซื้อราคาอยู่ที่กก.ละ 18 บาท
“มะม่วงที่เป็นข่าว เป็นมะม่วงพันธ์โชคอนันต์ ซึ่งผลผลิตสิ้นสุดฤดูกาลแล้ว ไม่มีผลผลิตที่ทานได้แล้ว เป็นมะม่วงหล่น ที่รอจำหน่ายเพื่อนำไปกวนเป็นมะม่วงกวนเท่านั้น ซึ่งปกติจะมีผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อทำมะม่วงกวน ไม่ใช่มะม่วงสดหรือมะม่วงน้ำดอกไม้แต่อย่างใด โดยกรมฯ ได้ประสานผู้ประกอบการเข้าไปช่วยรับซื้อสินค้าจากกลุ่มนี้ ในราคา 18 บาท ซึ่งกลุ่มยังไม่มีผลผลิตให้แก่ผู้ประกอบการแต่อย่างใด โดยผู้ประกอบการมีความพร้อมที่จะรับซื้อในราคา 18 บาท หากกลุ่มสามารถรวบรวมผลผลิตได้”นายกรนิจกล่าว.-สำนักข่าวไทย