เปิดข้อกฎหมายเอาผิดคนปกปิดข้อมูลโควิด-19

กทม. 7 เม.ย. – บุคลากรทางการแพทย์ถือเป็นกลุ่มคนทำงานที่ต้องใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 และเสี่ยงติดเชื้อ แต่ก็ยังพบมีผู้ป่วยบางรายปกปิดข้อมูล จนมีบุคลากรทางการแพทย์ต้องถูกกักตัว และขาดแคลนบุคลากร นักกฎหมายเสนอว่าควรเพิ่มโทษให้รุนแรงเอาผิดผู้ที่ปกปิดข้อมูล จนอาจทำให้ผู้ป่วยบางรายขาดโอกาสรักษา 


บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กว่า 100 คน คือกลุ่มคนล่าสุดที่ถูกกักตัว เพราะเสี่ยงติดโควิด-19 หลังสัมผัสใกล้ชิดกับชายชาวฮังการีที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่มาพบภายหลังว่าติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งก่อนหน้านี้เขาไม่เคยแจ้งข้อมูลความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคโควิด-19 แม้จะมีการซักถามแล้ว 


ส่วนที่โรงพยาบาลบางเลน จ.นครปฐม ก่อนหน้านี้ต้องปิดพื้นที่ของโรงพยาบาลบางส่วน พ่นยาฆ่าเชื้อ และกักตัวบุคลากรทางการแพทย์ 19 คน เพราะมีคนไข้รายหนึ่งไม่ยอมบอกว่าเคยสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด -19 มาก่อน     

 

หรือที่เชียงราย ชายคนหนึ่งที่ใกล้ชิดกับคนติดเชื้อโควิด-19 ไม่ยอมกักตัว ก่อนจะไปคลินิกทำฟันต่อ และไม่บอกข้อมูลความเสี่ยง ทันตแพทย์ที่เป็นผู้รักษาต้องกักตัวเอง 14 วัน 


รองเลขาธิการทันตแพทยสภา ซึ่งศึกษาเรื่องการปกปิดข้อมูลของผู้ป่วยโควิด-19 บอกว่า สาเหตุที่ผู้ป่วยโควิด-19 ปกปิดข้อมูล เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับการรักษา เช่น คนไข้รายหนึ่งที่ต้องการถอนฟัน มาพบทันตแพทย์ด้วยอาการปวดหัว ปวดเมื่อยตัว พร้อมปฏิเสธว่าไม่เคยรับส่งผู้โดยสารจากสนามมวย แพทย์เห็นว่าไม่มีความเสี่ยงจึงถอนฟันให้ แต่คนไข้กลับยอมรับภายหลังว่าเคยรับผู้โดยสารจากสนามมวย และเมื่อไปตรวจก็พบว่าแท็กซี่คนนี้ติดโควิด-19 จริง

ส่วนอีกกลุ่มคือรู้ว่ามีความเสี่ยง แต่ไม่กล้าตรวจยืนยันผล และคิดว่าการคัดกรอง เช่น การวัดไข้ ถือเป็นการวินิจฉัยแล้วว่าตัวเองไม่มีความเสี่ยงติดโควิด-19 การกระทำลักษณะนี้ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องกักตัว ทำให้บุคลากรที่เหลือทำงานหนักกว่าเดิม และยังทำให้คนไข้คนอื่นเสียโอกาสในการรักษา โดยเฉพาะการเจ็บป่วยที่ต้องใช้หมอเฉพาะทางรักษา 

กรณีที่เกิดขึ้นนี้ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ มองว่า หากพบมีผู้ป่วยพยายามปกปิดข้อมูล แพทย์และพยาบาลซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามที่ พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 กำหนดไว้ ก็สามารถเอาผิดฐานแจ้งความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137  โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ได้ 

หากบุคลากรทางการแพทย์หรือบุคคลอื่นติดเชื้อจากคนไข้ที่ปกปิดข้อมูล ก็สามารถเอาผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 390 กระทำการโดยประมาท ทำให้คนอื่นได้รับอันตราย โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท

      

หรือผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากคนไข้ที่ปกปิดข้อมูลโควิด-19 จนอวัยวะเช่นปอดทำงานไม่ปกติตลอดชีวิต สามารถเอาผิดได้ตามกฎหมายอาญามาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประสาททำให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส โทษจำคุกสูงสุด 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท 

หากผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากคนไข้ที่ปกปิดข้อมูลเสียชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญาเอาผิดได้ตามมาตรา 290 ผู้ใดกระทำโดยประมาทจนผู้อื่นถึงแก่ความตาย โทษจำคุก 3-15 ปี         

แม้ในช่วงที่เชื้อโควิด-19 ระบาด มีการใช้กฎหมายพิเศษเพื่อควบคุมอยู่แล้ว แต่นักวิชาการด้านกฎหมายเสนอว่าควรมีบทลงโทษที่รุนแรงมากขึ้นสำหรับผู้ที่ปกปิดข้อมูลการติดเชื้อ หรือผู้ที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เช่นในสิงคโปร์ ที่ปรับบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนให้ประชาชนไม่กล้ากระทำความผิด. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ กับมีลมแรง โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้าในภาคเหนือและภาคอีสาน ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย