รพ.จะนะ เร่งตรวจกลุ่มเสี่ยงจากเวทีมวย หลังพบติดเชื้อ 2 คน

ภูมิภาค 15 เม.ย. – รพ.จะนะ เร่งตรวจกลุ่มเสี่ยงจากเวทีมวยจะนะ หลังพบผู้ป่วยโควิดเข้ามาชมมวย ส่วนยะลาถูกตีไข่แตก พบผู้ป่วยโควิด 2 คน หลังไม่มีผู้ติดเชื้อมาถึง 355 วัน ขณะที่ยอดติดเชื้อประจวบคีรีขันธ์เพิ่มอีกเกือบร้อยคน ด้านผู้ว่าฯ ระยองให้นายจ้างทำไทม์ไลน์ลูกจ้างกลับมาจากสงกรานต์


รพ.จะนะ จ.สงขลา ตรวจกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางเข้าร่วมในสนามแข่งมวยชั่วคราว ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ เมื่อ 8 เมษายน ซึ่งจัดแข่งขันชกมวย มหกรรมมวยรวมพลคนจะนะ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 2 คน ที่ จ.กระบี่ และมีไทม์ไลน์เข้าร่วมในเวทีดังกล่าวด้วยบัตรวีไอพี เมื่อ 8 เมษายน ทำให้ต้องตรวจหาเชื้อเชิงรุก ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ภายในเวทีมวย ทั้งฝ่ายปกครองและหน่วยกำลังด้านความมั่นคงอย่างน้อย 50 ราย ส่วนที่เหลือก็เป็นกลุ่มประชาชนทั่วไปซึ่งอยู่ในพื้นที่ชั้นนอกของเวที ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลาให้โรงพยาบาลทุกแห่งรองรับผู้ป่วยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะนี้มีความพร้อม 770 เตียง และอยู่ระหว่างจัดหาโรงพยาบาลสนามที่มีความพร้อมมากขึ้น โดยผู้ป่วยติดเชื้อโควิดระลอกใหม่ในสงขลามี 75 ราย

ยะลาถูกตีแตก หลังไม่พบเชื้อ 355 วัน
หลังรอดพ้นไม่พบผู้ติดเชื้อโควิดมาถึง 335 วัน แต่ล่าสุด นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ได้รับรายงานผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกเมษายน 2 ราย เป็นเพศหญิงอายุ 61 ปี อาชีพทำสวน และเพศชาย เดินทางไปกรุงเทพฯ และกลับถึงยะลาวันที่ 12 เมษายน ซึ่งผู้ป่วยทั้ง 2 รายพักรักษาตัวอยู่ รพ.ยะลา และหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ได้ดำเนินการควบคุมโรคตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว


ยอดติดเชื้อประจวบคีรีขันธ์เพิ่มอีกเกือบร้อย
ส่วนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้เพิ่มขึ้นอีก 98 ราย ทำให้มียอดสะสมเป็น 525 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 495 ราย รักษาหาย 30 ราย พื้นที่ที่มีการระบาดมากที่สุดคือ อ.หัวหิน 385 ราย ซึ่งเป็นการระบาดจากสถานบันเทิง โดยเมื่อวานนี้ นายมนตรี มานิชพงษ์ ปลัดอำเภอหัวหิน และนายเจนวิทย์ ผลิศักดิ์ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอหัวหิน ไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของสถานบันเทิงทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิดกระจายเป็นวงกว้าง จากการจัดคอนเสิร์ต

ผู้ว่าฯ ระยองให้นายจ้างทำไทม์ไลน์ลูกจ้างกลับมาจากสงกรานต์
ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ระยอง ยอดสะสมระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน จนถึงวันที่ 15 เมษายน จำนวน 117 ราย นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้โพสต์เฟซบุ๊กแถลงสถานการณ์โควิด-19 ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ นายจ้างทั้งหลายให้รวบรวมจัดทำไทม์ไลน์ของคนงานที่กลับมาทำงานหลังสงกรานต์เพื่อตรวจสอบ หากพบว่ามีความเสี่ยงให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอใกล้บ้านทันที เพื่อจะได้คัดแยกกลุ่มเสี่ยงและคัดกรองหาเชื้อโดยเร็วที่สุด

นนทบุรีติดเชื้อแล้วเกือบ 700 ราย
ด้านศูนย์ข้อมูลโควิด จ.นนทบุรี รายงานจำนวนผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 วันที่ 15 เมษายน เพิ่มขึ้นอีก 94 ราย ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง มีอาการ 77 ราย ไม่มีอาการ 17 ราย ความสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน ซึ่งเป็นผู้ป่วยก่อนหน้า จำนวน 64 ราย เกือบทุกรายเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง และสถานบันเทิง กทม. โดยตรง 19 รายรวมสะสม 674 ราย


ผู้ว่าฯ ขอนแก่นสั่งตรวจสอบ นศ.ติดโควิดไม่กักตัว

ด้านนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น มอบอำนาจให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ตรวจสอบกรณีสาวนักศึกษาติดเชื้อโควิดที่กรุงเทพฯ แต่ไม่ยอมกักตัว กลับขึ้นรถโดยสารปรับอากาศมาตรวจเชื้อที่ขอนแก่น และผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อ หากมีความผิดในประการใดก็จะดำเนินการตามกฎหมาย และขอให้ทุกคนที่พบว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการป่วย ขอให้งดเดินทาง และเข้ารับการตรวจที่สถานให้บริการด้านสาธารณสุขใกล้ตัวทันที และขอให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคอย่างเข้มงวดด้วย ขณะเดียวกันจังหวัดขอนแก่นใช้หอพัก 26 ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดทำเป็นโรงพยาบาลสนาม รองรับได้ 258 เตียง และเตรียมแผนใช้พื้นที่พุทธมณฑลอีสาน เพิ่มเติมอีก 240 เตียง ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 112 ราย

ไทม์ไลน์การแพร่กระจายของเชื้อโควิดรอบนี้รวดเร็วแค่ไหน เพราะช่วงวันที่ 28 มีนาคม-3 เมษายน พบผู้ติดเชื้อโควิด 14 จังหวัด กระจายในพื้นที่ภาคกลางเป็นส่วนใหญ่ แต่หลังจากนั้นเพียง 1 สัปดาห์ คือระหว่างวันที่ 4-10 เมษายน เชื้อกระจายไปเป็น 62 จังหวัดและช่วงสงกรานต์ระหว่าง 11-15 เมษายน มีจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 72 จังหวัด ล่าสุดสรุปยอด 1-15 เมษายน มีจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อโควิดรวมทั้งสิ้น 75 จังหวัด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]