ชลบุรี 7 เม.ย. – เมืองพัทยา จ.ชลบุรี คุมเข้มเคอร์ฟิว จับกุมผู้ฝ่าฝืน 14 ราย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ตามที่รัฐบาลได้ประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกจากเคหสถาน ในห้วงเวลา 22.00-04.00 น. โดยไม่จำเป็น หรือเข้าข้อยกเว้น หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อเป็นการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เมืองพัทยา และพื้นที่ใกล้เคียง ต้องมีมาตรการป้องกัน
ล่าสุดเมื่อเวลา 00.30 น. วันนี้ (7 เม.ย.) สภ.เมืองพัทยา ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.14 ออกตระเวนตรวจตราผู้กระทำผิดฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิว รวมถึงป้องกันเหตุอาชญากรรมในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากเป็นช่วงที่ทุกคนต้องกลับเข้าสู่เคหสถาน ทำให้ทั่วทั้งเมืองอยู่ในความเงียบสงัด ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุอาชญากรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จึงวางมาตรการป้องกัน หากพบบุคคลที่ยังไม่เข้าสู่เคหสถานก็จะสอบถาม และหากพบว่าฝ่าฝืนจริงก็จะมีความผิดทันที นอกจากนี้ สภ.เมืองพัทยา ยังได้ตั้งด่านตรวจสกัด บริเวณสี่แยกท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต สามารถจับกุมผู้ฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวได้ทั้งหมด 3 ราย
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ยงยุทธ หวานเหนือ สว.สส.สภ.หนองปรือ และ ร.ต.อ.ชาญชัย สงวนศักดิ์ศรี รอง สวป.สภ.หนองปรือ ยังได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราป้องกันเหตุ กระทั่งพบกลุ่มผู้กระทำผิดฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิว นั่งตั้งวงดื่มสุรา และยังไม่ยอมกลับเข้าที่พักตามเวลาที่กำหนด โดยไม่มีเหตุอันควร จำนวนทั้งสิ้น 11 ราย ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนในเขตพื้นที่ อ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.14 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ได้ตั้งจุดตรวจสกัด ตรวจเช็กยานพาหนะทุกคันที่สัญจรผ่านเข้ามายังจุดตรวจ บริเวณตรงข้ามที่ว่าการอำเภอบางละมุง พบยังมีรถสัญจรไปมา จากการตรวจสอบพบว่า ส่วนใหญ่เพิ่งเลิกงานแล้วเดินทางกลับที่พัก และเป็นรถขนส่งสินค้า
ทั้งนี้ ยังฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชน หากไม่มีเหตุจำเป็นให้กลับเข้าที่พักตามเวลาที่กำหนดไว้ คือก่อน 22.00 น. และจะออกมาได้อีกครั้งในเวลาหลัง 04.00 น. หากผู้ใดฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องจับกุมตัวส่งดำเนินคดี โดยมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกัน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19. – สำนักข่าวไทย