สุพรรณบุรีติดโควิด-19 รายที่ 5 เป็นเด็ก 11 ขวบ

ภูมิภาค 5 เม.ย. – สุพรรณบุรีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย เป็นรายที่ 5 ของจังหวัด เป็นเด็กชายวัย 11 ปี ติดเชื้อจากคนในครอบครัวรายที่ 2 และ 4 ส่วนที่เกาะสมุย บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 1 ราย ขณะที่ จ.ลำปาง ปิด 2 หมู่บ้านชาวเขา หลังจังหวัดมีผู้ติดเชื้อแล้ว 3 ราย


สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรียืนยันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย เป็นเด็กชายวัย 11 ปี ติดเชื้อจากคนในครอบครัว รายที่ 2 และรายที่ 4 หลังจากรายที่ 2 ไม่ได้กักกันตัวและเดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต และกลับมาอยู่บ้านที่ อ.อู่ทอง 


นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางลงพื้นที่ ต.จรเข้สามพัน อ.อู่ทอง หลังพบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 4 ราย ในตำบลดังกล่าว และคนล่าสุดรายที่ 5 ซึ่งเป็นเด็ก 11 ขวบ ก็ติดเชื้อจากการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายเดิมคือรายที่ 2 และรายที่ 4 แต่ยังไม่มีการพบการติดเชื้อออกไปสู่กลุ่มคนภายนอก ด้านเจ้าหน้าที่จึงได้วางมาตรการเข้มหากพบว่าเกิดการแพร่กระจายระบาดมากขึ้น อาจต้องพิจารณาล็อกดาวน์หมู่บ้าน เพื่อควบคุมโรค ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทุกส่วนตรวจเข้มการเข้าออกหมู่บ้าน และกลุ่มเสี่ยงให้กักกันตัว หากพบผู้ฝ่าฝืนรายใดไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำหรือคำสั่งของจังหวัดสุพรรณบุรี จะดำเนินคดี       

บุคลากรทางการแพทย์เกาะสมุทยติดโควิด-19 


ศูนย์ประสานงานเฝ้าระวังและป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในเทศบาลนครเกาะสมุย ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายนพดล ขาวมะลิ ปลัดอาวุโสอำเภอเกาะสมุย พร้อมด้วย นพ.ธีรศักดิ์ เลื่องฤทธิ์วุฒิ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกาะสมุย นายอภิเดช พรหมคุ้ม สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุย ร่วมแถลงข่าวพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย ซึ่งเป็นรายที่ 4 ของเกาะสมุย 

สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มรายนี้ เป็นหญิงไทยอายุ 42 ปี เป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอเกาะสมุย ทำงานที่เดียวกับผู้ป่วยรายที่ 3 ผู้ป่วยติดเชื้อรายนี้ไม่มีประวัติเดินทางออกจากเกาะสมุย ได้พักอาศัยอยู่กับสามีและลูกรวม 4 คน โดยเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ผู้ป่วยมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อรายที่ 13 ของ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปห้องแยกผู้ป่วยแรงดันลบ โดยใส่อุปกรณ์ป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัยที่ใช้ผ่าตัด และใส่ถุงมือยาง จากนั้นวันที่ 25-26 มีนาคม ได้ปฏิบัติงานตามปกติในโรงพยาบาล จนกระทั่งวันที่ 27 มีนาคม เริ่มมีอาการแสบคอ ปวดเบ้าตา แต่ยังปฏิบัติงานตามปกติในโรงพยาบาล โดยมีเพียงอาการเจ็บคอเล็กน้อยเท่านั้น 

วันที่ 29 มีนาคม ผู้ป่วยมีอาการเจ็บคอ คอแดง แพทย์ตรวจร่างกายวัดอุณหภูมิได้ 37.1 องศาเซลเซียส จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน แพทย์จ่ายยาฆ่าเชื้อ และสั่งให้หยุดพักงาน 3 วัน โดยผู้ป่วยพักอยู่ในหอพักโรงพยาบาล 

จากนั้นวันที่ 30 มีนาคม เริ่มมีอาการไข้หนาวๆร้อนๆ จึงมาพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอีกครั้ง วัดอุณหภูมิได้ 37.3 องศาเซลเซียส คอแดง แพทย์จ่ายยาและให้กลับไปพักผ่อน 

ต่อมาในวันที่ 1 เมษายน อาการไข้ไม่ดีขึ้น ไอมีเสมหะ เจ็บคอ มีน้ำมูก เพลีย ปวดเมื่อยตัว ปวดศีรษะ จึงไปพบแพทย์อีก วัดอุณหภูมิได้ 39.2 องคาเซลเซียส จึงส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลตรวจออกมาเมื่อวันที่ 2 เมษายน ยืนยันติดเชื้อโควิด-19 

สงขลาปิดเมือง ห้ามเข้า-ออก ตั้งแต่ 6-30 เม.ย. 

นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามในคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ห้ามบุคคลใดเดินทางเข้า-ออกข้ามเขตพื้นที่จังหวัดสงขลา มีผลตั้งแต่วันที่ 6-30 เมษายน 2563 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสกัดการการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยมีข้อยกเว้น ได้แก่ บุคคลได้รับการยกเว้นตามข้อ 1 ได้แก่ การขนส่งสินค้าจำเป็น การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค การขนส่งสินค้าการเกษตร ปศุสัตว์ อาหารสัตว์ การขนส่งแก๊สหุงต้มน้ำมันเชื้อเพลิงการขนส่งอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ รถฉุกเฉินกู้ชีพกู้ภัยรถพยาบาลการ ขนส่งเงินของธนาคารและสถาบันการเงิน การขนส่งวัสดุก่อสร้างเครื่องจักรก่อสร้าง การขนส่งวัสดุและสิ่งพิมพ์ รวมถึงไปรษณีย์ บุคคลยกเว้น ตามข้อ 2 กรณีข้าราชการ ลูกจ้าง หรือพนักงานบริษัทหรือลูกจ้าง ให้ต้นสังกัดออกหนังสือรับรองการปฏิบัติงานพร้อมแสดงบัตรประจำตัวข้าราชการหรือบัตรประจำตัวพนักงานกรณี บุคคลทั่วไปขออนุญาตต่อนายอำเภอท้องที่ประจำจุดตรวจพนักงาน เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ

ขณะนี้ที่ จ.สงขลา เตรียมพร้อมรับชาวไทยมุสลิมที่เดินทางเข้าร่วมงานรวมตัวทางศาสนา หรือดาวะห์ ในประเทศอินโดนีเซีย ที่มีกำหนดเดินทางกลับด้วยเที่ยวบินพิเศษ ถึงในวันที่ 6 เมษายน โดยสายการบิน Thai Lion Air มายังท่าอากาศยานหาดใหญ่ จำนวน 100 คน ซึ่งจะต้องผ่านกระบวนการคัดกรองทั้งหมดที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ก่อนแยกย้ายไปยังภูมิลำเนา 

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลารายงานสถานการณ์โควิด-19 วันนี้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 37 ราย รักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 19 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 18 ราย มีผู้เข้าเรียนเฝ้าระวังสอบสวนโรคสะสม 414 ราย ส่งตรวจแล้วไม่พบเชื้อ 360 ราย รอผลการตรวจ 17 ราย 

ลำปางปิด 2 หมู่บ้าน หลังมีผู้ติดเชื้อ 3 ราย

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม เร่งออกประชาสัมพันธ์แนะนำชาวบ้าน บ้านใหม่สามัคคีหมู่ที่ 7 และบ้านแม่จอกฟ้าหมู่ที่ 8 ต.ทุ่งผึ้ง ให้ป้องกันตัวเอง เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และเนื่องจากสองหมู่บ้านนี้ส่วนใหญ่เป็นประชาชนบนพื้นที่สูง หมู่บ้านใหม่สามัคคีเป็นชาวเขาเผ่าลาหู่ อาศัยอยู่ 137 ครัวเรือน และที่บ้านแม่จอกฟ้า เป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง หรือปกาเกอะญอ อาศัยอยู่กว่า 80 ครัวเรือน และมีแนวตะเข็บติดต่อกับ อ.งาว คือบ้านดง ต.หลวงใต้ อ.งาว ซึ่งพบผู้ติดเชื้อแล้ว 3 ราย และได้ปิดหมู่บ้านไปเมื่อวานนี้ (4 เม.ย.)   

2 หมู่บ้านดังกล่าว อยู่ห่างไกลจากชุมชนและตัวอำเภอแจ้ห่ม กว่า 30 กิโลเมตร ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เก็บหาของป่า และยังมีพ่อค้าแม่ค้าจากต่างถิ่นเข้าทำมาค้าขายกับคนในหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง เกรงว่าจะนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดให้ชาวเขา กรรมการตำบลทุ่งผึ้งและผู้นำหมู่บ้านจึงร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้ประชาชนใน 2 หมู่บ้านไม่ติดเชื้อ และป้องกันการแพร่ระบาด จึงได้ประกาศปิดหมู่บ้านทั้งสองหมู่บ้าน ห้ามบุคคลนอกเข้าพื้นที่ และให้ประชาชนอยู่แต่ในหมู่บ้าน ห้ามเดินทางออกนอกหมู่บ้านอย่างเด็ดขาด หากมีความจำเป็นต้องขออนุญาตจากผู้นำชุมชนเท่านั้น. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]