ช่วยเหลือคนไทยที่ตกค้างอยู่ในต่างประเทศ

กทม. 4 เม.ย.- ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (ศบค.) มีมติขอความร่วมมือคนไทยในต่างประเทศชะลอการเดินทางเข้าประเทศไทยไปจนถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 ทำให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก ต้องระงับการออกหนังสือรับรองให้แก่คนไทยที่ต้องการเดินทางกลับ และทำให้เกิดความห่วงกังวลกรณีคนไทยและนักเรียนนักศึกษาไทยที่ตกค้างอยู่ในต่างประเทศ และมีบางส่วนเป็นข่าวปรากฏผ่านสื่อนั้น


นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ ในกรณีดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว อาทิ


1. กรณีนักศึกษาไทยในอินเดียที่มีความต้องการเดินทางกลับประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี และสถานกงสุลใหญ่ไทยทั้งสามแห่งในอินเดีย (มุมไบ เจนไน และกัลกัตตา) ได้พยายามติดต่อประชาสัมพันธ์กับคนไทยในอินเดียมาโดยตลอด ทั้งทางโทรศัพท์ Hotline และไลน์กลุ่มคนไทยในอินเดีย รวมทั้งได้ตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และให้คนไทยในอินเดียลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลข่าวสารและแจ้งความต้องการเดินทางกลับไทย เพื่อรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาใช้ในการวางแผนการให้ความช่วยเหลือแก่คนไทยอย่างเหมาะสม และจะพยายามปรับปรุงการติดต่อสื่อสารให้ทั่วถึงมากขึ้นต่อไป ส่วนในกรณีที่เป็นข่าวนั้น นักศึกษาไทยคนดังกล่าวได้ลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูตฯ และได้รับการติดต่อเพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความไม่สะดวกเบื้องต้นแล้ว

2. กรณีความต้องการของนักเรียนไทยในออสเตรเลียที่ประสงค์จะให้รัฐบาลจัดเที่ยวบินพาณิชย์บินเคลื่อนย้ายจากออสเตรเลียกลับไทย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ได้ให้ความช่วยเหลือโดยพยายามหาช่องทางแนะนำการเดินทางกับสายการบินพาณิชย์อื่น ๆ หลังจากที่สายการบินไทยระงับเที่ยวบินจากออสเตรเลียไปไทยตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 นอกจากนี้ ได้ให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องของทางการออสเตรเลียในเรื่องการต่อวีซ่า ตลอดจนได้รายงานกระทรวงการต่างประเทศมาโดยตลอด ซึ่งจะต้องพิจารณาภาพรวมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ในชั้นนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ และสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้สำรวจตวามต้องการของคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยและออกค่าใช้จ่ายเองรวมทั้งประเด็นปัญหาอื่นๆ โดยขอให้แจ้งกับสถานเอกอัครราชทูตฯและสถานกงสุลใหญ่ฯ ภายในวันที่ 7 เมษายน 2563 จึงขอให้พี่น้องนักเรียนไทยรอฟังความคืบหน้าต่อไปโดยคำนึงถึงว่าในช่วงนี้ ศบค.ได้ประกาศขอให้มีการชะลอการเดินทางเข้าประเทศไทยออกไปเป็นหลังวันที่ 15 เมษายน เพื่อวางมาตรการด้านสาธารณสุขที่เหมาะสมต่อไป


กระทรวงการต่างประเทศ ขอเน้นย้ำว่า การระงับการออกหนังสือรับรองให้แก่คนไทยที่ต้องการเดินทางกลับดังกล่าว เป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเท่านั้น และจะกลับมาดำเนินการให้บริการอีกครั้ง ตามที่มีประกาศ ทั้งนี้ ในการกรอกเอกสารลงทะเบียนขอรับหนังสือรับรอง จะต้องยินยอมเข้ารับการกักตัวควบคุมโรค 14 วันในสถานที่ที่รัฐกำหนดทุกกรณี รวมทั้งมีใบรับรองแพทย์ fit to fly อายุไม่เกิน 72 ช.ม.

ทั้งนี้ ในช่วงที่มีมาตรการดังกล่าวออกมา อาจก่อให้เกิดความไม่สะดวกและปัญหาด้านความเป็นอยู่แก่พี่น้องนักเรียนชาวไทยที่ต้องการเดินทางกลับประเทศอยู่บ้าง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ไทยทุกแห่งทั่วโลกไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะดำเนินการช่วยเหลือโดยยึดมั่นในสวัสดิภาพของคนไทยทุกคนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

อย่างไรก็ตามในขณะนี้ ขอให้คนไทยในต่างประเทศปฏิบัติตนตามมาตรการของประเทศที่พำนักอยู่ รักษาสุขภาพ รวมทั้งคอยติดตามข่าวสารจากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่อย่างใกล้ชิด และคำนึงถึงมาตรการชะลอการเดินทางของไทยในช่วงเวลานี้ เพื่อหามาตรการรองรับคนไทยที่จะเดินทางกลับอย่างเหมาะสมและปลอดภัยด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว