กรุงเทพฯ 3 เม.ย.-สุวรรณภูมิ หวิดจลาจล หลังผู้โดยสารคนไทยเที่ยวบินจากสหรัฐ-ญี่ปุ่น กว่า 100 คน เดินทางมาถึงไทยแล้วไม่ยอมรับมาตรการกักตัว 14 วัน ล่าสุด กพท.เตรียมออกประกาศงดทุกเที่ยวบินเดินทางเข้าไทย 3 วัน มีผลคืนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเย็นที่ผ่านมา บรรยากาศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น หลังจากมีเที่ยวบินผู้โดยสารจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เที่ยวเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และผู้โดยสารรวมแล้วกว่า 100 คน จะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัว ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศของสำนักงานการบินพลเรือน หรือ กพท. โดยจะต้องนำผู้โดยสารเหล่านี้ ไปกักตัวในสถานที่ ที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานด้านความมั่นคงเตรียมไว้ อย่างไรก็ตามผู้โดยสารกลุ่มนี้ได้ปฏิเสธ ที่จะเข้าสู่กระบวนการกักตัว และเกิดโต้เถียงกันยืดเยื้อนานกว่า 4 ชั่วโมง ก็ไม่ได้ข้อสรุปและเกิดความตึงเครียดขึ้น โดยกลุ่มผู้โดยสารระบุว่าไม่ทราบประกาศเรื่องของการกักตัวผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงประเทศไทยทุกเที่ยวบิน
ล่าสุด มีผู้โดยสารบางส่วนได้ เดินทางออกไปจากสนามบินได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอยู่ระหว่างตามตัวให้ผู้โดยสารเหล่านี้กลับมาเข้าสู่กระบวนการกักตัว เพราะไม่เช่นนั้น ก็จะทำให้ผู้โดยสารกลุ่มอื่น ที่เดินทางมาในวันนี้ และต้องยอมรับมาตรการการกักตัวที่ภาครัฐประกาศไว้ เหมือนได้รับการเลือกปฏิบัติ ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขก็มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของ COVID 19 สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยจากปัญหาดังกล่าว นายกรัฐมนตรีเตรียมหารือด่วนวันพรุ่งนี้ หลังกระทรวงการต่างประเทศฝ่าฝืนคำสั่งออกเอกสารให้คนเดินทางเข้าประเทศ และผู้โดยสารบางกลุ่มดื้อแพ่งไม่ยอมกักตัว
ทั้งนี้การดำเนินการตามมาตรการให้กัก ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกประเทศ เป็นไปตามแนวทางที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีคำสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศ ชะลอการเดินทางเข้าประเทศของคนไทยและคนต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 2เมษายน – 15 เมษายนนี้ แต่ปรากฏว่า กระทรวงการต่างประเทศ ยังคงออกเอกสารรับรองให้คนไทยและคนต่างชาติ เดินทางเข้าประเทศไทย ตามปกติ และเมื่อเวลา 20.00 น.วันนี้ (3 เม.ย.) มีกลุ่มคนไทยมากกว่า 100 คน เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และปฏิเสธที่จะเข้ารับการกักตัวตามมาตรการของรัฐบาล
ทั้งนี้ การเดินทางมาจากต่างประเทศของคนไทยและคนต่างชาติ ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ติดเชื้อในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจาก เมื่อกลับมาแล้วไ่ม่ยอมกักตัว และเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ จนเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งให้มีการชะลอการเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้จะเป็นคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็ยังมีหน่วยราชการ ฝ่าฝืนคำสั่งและไม่ปฏิบัติตาม อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ล่าสุด หลังจากที่มีการละเมิดคำสั่งทั้งคำสั่งชะลอการเดินทางเข้าประเทศ และการไม่ยอมรับการกักตัวในสถานที่รัฐกำหนด นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นการด่วน ในวันพรุ่งนี้ เวลา 09.00 น.
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานจาก สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ว่า จากปัญหาความวุ่นวายที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วไม่ยอมถูกกักตัว 14 วัน ตามประกาศของ กพท. และตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน นั้น ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายดังนั้น ทาง กพท. จะประกาศห้ามเครื่องบินจากทุกประเทศและผู้โดยสารเข้าประเทศไทย จำนวน 3 วัน โดยมีผลตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกันทาง กพท. ได้มีการประสานงานไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อประสานงานไปยังแต่ละประเทศว่าประเทศไทยจะมีการออกประกาศดังกล่าว ห้ามสายการบินนำผู้โดยสารและเครื่องบินเข้าประเทศไทย
ขณะเดียวกันทาง กพท.จะมีการรวบรวมว่าในช่วงนี้มีสายการบินอะไรบ้างที่แจ้งว่าจะทำการบินเข้าประเทศไทย กี่เที่ยวบิน แล้วมีผู้โดยสารจำนวนเท่าไหร่ เพื่อรวบรวมข้อมูล อย่างไรก็ตามทาง กพท. จะออกประกาศ ภายในคืนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะเดียวกันจากปัญหาผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทยไม่ยอมกักตัวตามคำแจ้งของเจ้าหน้าที่นั้น ในทางปฏิบัติขณะนี้ ทางฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหารและตำรวจ จะมีการไปเชิญตัวผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยในวันนี้กลับมากักตัวตามที่ราชการกำหนด ซึ่งจะเป็นที่สัตหีบและกำแพงแสน รวมถึงโรงแรมต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการกับรัฐบาล เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
วันนี้มีรายงานข่าวเพิ่มเติมจากกระทรวงสาธารณสุขว่า ผู้โดยสารที่ออกไป มีบางคนมีอาการไข้ และถูกกักไว้ 3 คน อาศัยจังหวะชุลมุน หลบหนีการกักตัวออกจากสนามบินไปด้วย.-สำนักข่าวไทย