ภูมิภาค 3 เม.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมประสานฝ่ายกฎหมายแจ้งความดำเนินคดีมิจฉาชีพแก๊งเงินบุญร้อยแลกล้านที่นำไปแอบอ้างหลายวาระ โดยทีมข่าวสำนักข่าวไทยพบข้อมูลว่าการกล่าวอ้างขั้นตอนการทำธุรกรรมต่างๆ ล้วนเป็นข่าวเท็จ
เกือบ 8 เดือนที่ทีมข่าวสำนักข่าวไทยแฝงตัวอยู่ในกลุ่มไลน์สแควร์แก๊งเงินบุญ ยังคงพบการปล่อยข่าวเท็จ เพื่อขายโปรร้อยแลกล้านทุกวัน มีการนัดจ่ายผลตอบแทนทุกสัปดาห์ แต่ก็เลื่อนมาทุกครั้ง
เจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่งให้ข้อมูลว่า คีย์การ์ดคล้ายบัตร ATM ไม่มีการเก็บเงิน คลิปเสียงดังกล่าวจึงเป็นข้อมูลเท็จ เช่นเดียวกับหลายข่าวที่แชร์กันตามห้องขายโปร ล้วนเป็นการหลอกลวง เช่น ใบคลีนที่นำมาอ้างเรียกเก็บเงิน ไม่มีในสารบบธนาคาร รวมทั้งรหัสปลดล็อกบัญชี ที่เมื่อผ่านตรวจสอบการฟอกเงินจาก ปปง. แล้ว ธนาคารไม่มีสิทธิอายัดเงินในบัญชีลูกค้า ส่วนศูนย์เงินสด ที่อ้างเปิดเพียง 3 วัน อังคาร-พฤหัสบดี ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน
ธนาคารแห่งประเทศไทยคือหน่วยงานอันดับต้นๆ ที่ถูกมิจฉาชีพแอบอ้างมากที่สุด บ้างก็ว่าได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ มีเงินก้อนใหญ่เข้ามาให้ได้ทำธุรกรรมที่แบงก์ชาติ ถือเป็นการบิดเบือนบทบาทหน้าที่ ซึ่งจะมีการแจ้งความดำเนินคดี มิจฉาชีพแก๊งเงินบุญหลายสายอ้างว่าเงินจำนวนหลายล้านล้านบาทเข้ามาในประเทศเมื่อปีที่แล้ว ตรวจสอบบัญชีฐานะการลงทุนระหว่างประเทศ ไม่พบยอดเงินที่อ้างแต่อย่างใด ไม่มีเดือนใดมีเงินเข้ามามากเป็นพิเศษ และไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากปี 2561 เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชี้ชัดว่าเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ เท่านั้น
พักหลังมิจฉาชีพแก๊งเงินบุญมักอ้างการรีเซ็ตระบบการเงินโลก มีการอ้างอิงกฎหมาย Gesara, Nesara เพื่อมาปลดเปลื้องหนี้สินชาวโลก พูดถึงระบบการเงินใหม่อย่าง Quantum Financial System หรือ QFS แต่เรื่องราวเหล่านี้ เจ้าหน้าที่แบงก์ชาติ คนในแวดวงการเงิน การธนาคารหลายคน กลับไม่เคยได้ยิน.-สำนักข่าวไทย