ขยายเวลาหนังสืออนุญาตแรงงานต่างด้าวประจำเรือ

กรุงเทพฯ 3 เม.ย. – กรมประมงออกประกาศขยายวันหมดอายุ Seabook แรงงานต่างด้าวประจำเรือถึง 30 เม.ย.ตามมติ ครม.ผ่อนปรนให้แรงงานต่างด้าวที่ไม่สามารถขอใบอนุญาตทำงานในราชอาณาจักรไทยได้ทัน พร้อมเปิดยื่นต่ออายุหนังสือคนประจำเรือแล้ว 


นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ได้ออกประกาศกำหนดให้หนังสือคนประจำเรือ (Seabook) ซึ่งหมดอายุในวันที่ 31 มีนาคม 2563 สามารถใช้ได้ต่อไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 ตามอำนาจการออกหนังสือคนประจำเรือ มาตรา 83 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ให้สอดคล้องตามมติครม. วันที่ 24 มีนาคม 2563 ที่ผ่อนปรนให้แรงงานต่างด้าวที่ไม่สามารถขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ได้ทัน สามารถอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้เป็นการชั่วคราวเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการออกทำการประมง กรณีที่นายจ้างหรือผู้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวมาทำงานตามที่ได้ยื่นขอรับบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวไว้กับกระทรวงแรงงาน ไม่สามารถดำเนินการขอตรวจลงตราขอรับใบอนุญาตทำงานและขอจัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติแรงงานที่ไม่มีสัญชาติไทยได้ทัน 

นอกจากนี้ ยังเป็นการการดำเนินการเป็นไปตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและมิให้ประชาชนต้องเสียประโยชน์หรือละเมิดกฎหมายตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ 31 มีนาคม 2563 โดยคนต่างด้าวที่จะมีสิทธิ์ตามประกาศนี้จะต้องมีรายชื่อในบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว (Name list) ที่กรมการจัดหางานออกให้ และมีใบอนุญาตทำงานฉบับเดิม ดังนั้นคนต่างด้าวที่ประสงค์จะต่ออายุหนังสือคนประจำเรือสามารถมายื่นคำขอต่ออายุได้จนถึงวันที่ 30 เมษายน ที่สำนักงานประมงจังหวัด 22 จังหวัดชายทะเล 


สำหรับเอกสารประกอบการยื่นขอต่อหนังสือคนประจำเรือได้แก่ หนังสือคนประจำเรือที่หมดอายุ บัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว (Name list) ใบอนุญาตทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฉบับเดิม สำเนาใบอนุญาตทำการประมงของเจ้าของเรือ สำหรับเรือประมงที่มีขนาดตั้งแต่ 10 ตันกรอสขึ้นไป สำเนาใบทะเบียนเรือและสำเนาใบอนุญาตให้ใช้เรือ สำหรับเรือประมงที่มีขนาดน้อยกว่า 10 ตันกรอส และสำเนาหนังสือสัญญาจ้างให้ทำงานในเรือประมง

ทั้งนี้ หนังสือคนประจำเรือที่ได้รับการต่ออายุจะใช้ได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เท่านั้น หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่หยุด และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังไม่ถูกยกเลิก ทางกรมประมงจะแจ้งแนวทางปฏิบัติให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ